เมื่อเวลา 10.00 น.นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงการปิดกิจการของสถานีโทรทัน์ดาวเทียมพีทีวีที่มีข่าวว่าอาจจะเข้ามาดำเนินการกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีของกรมประชาสัมพันธ์ว่า การดำเนินการของพีทีวีนั้นจะไม่มาอยู่ในสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีแน่นอน แต่ที่ถูกผูกโยงกันเพราะเรื่องของเงื่อนเวลา ซึ่งพีทีวีที่ปิดตัวลงเพราะเหตุผลเรื่องธุรกิจ เนื่องจากการดำเนินการทางการเมืองมากกว่าด้านธุรกิจจนไม่สามารถอยู่ได้ ส่วนการพัฒนาสื่อภาครัฐนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับเอกชนที่มีการเปลี่ยนแปลงไป
ส่วนที่ตนได้บอกว่าพร้อมรับนายวีระ มุกสิกพงษ์ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวีเข้ามาร่วมงานกับเอ็นบีทีนั้น
หากพีทีวีจะมาอยู่ร่วมในเอ็นบีทีก็ต้องเป็นไปตามสาระบบของกรมประชาสัมพันธ์ที่มีการวางระเบียบเอาไว้ จะไม่มีการระบุตัวบุคคลลงไปแน่นอน แต่อาจจะมีบางฝ่ายที่มีความหวั่นเกรงว่ารัฐบาลประชาธิปไตยจะไม่เอาตัวเองแน่นอนหรือแบ่งโลกกันอยู่แน่ๆ ออกมาผูกโยงเรื่องนี้ ซึ่งตนอยากให้สบายใจว่าการปรับปรุงสื่อมวลชนนั้นอยู่ในสายตาของประชาชนและสื่อมวลชนอย่างเปิดเผย การปรับเปลี่ยนสื่อหรือร่วมงานกันอย่างไรจะได้เห็นเองในอนาคต แต่ในระยะนี้อยากให้ทุกคนคิดถึงเอ็นบีทีในฐานะสถานีโทรทัศน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
นายจักรภพ กล่าวว่าการดำเนินการของเอ็นบีทีนั้นโปร่งใสทุกขั้นตอน
ซึ่งอยากจะให้สอบถามกับกรมประชาสัมพันธ์ว่ามีความรู้สึกว่ามีใครเข้ามาไม่โปร่งใสหรือไม่ เราจึงไม่ควรไปห่วงแทนกรมประชาสัมพันธ์ เพราะการทำงานครั้งนี้เป็นการส่งไม้กันของคนที่ถนัดในระบบราชการกับมืออาชีพและเมื่อระบบการทำงานราบรื่นก็ไม่เห็นว่าจะมีใครต้องเดือดร้อนอะไร ยกเว้นว่าคนที่คิดว่าสื่อของตัวเองยังไม่ได้เข้าไปร่วใด้วยจึงใช้วิธีตีกินไปก่อน