เฉลิม แช่ง สนธิ ตายในคุก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าววานนี้ (28 มี.ค.)

ถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ขออวยพรให้นายสินธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ โชคดี ประสบความสำเร็จ ขอให้คนมาเยอะๆ นายสนธิจะได้พูดจาเผลอไผลจนผิดเงื่อนไขที่ทำไว้กับศาล เพราะทนายฝ่ายโจทก์คัดสำนวนมา ตนอ่านแล้วเสียวแทน กล้าจริงๆที่ไปขึ้นเวที เชื่อว่าสุดท้ายนายสนธิจะตายในคุก ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้ข่มขู่ แต่ในฐานะที่เคยรู้จักกันเก่าแก่ จึงห่วงใย หากนายสนธิพูดจาพาดพิงถึง และเป็นการหมิ่น ประมาท ตนจะไปแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม หรืออาจจะไปฟ้องศาล


นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

กล่าวถึงการเฝ้าระวังกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จัดการเสวนาที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า รัฐบาลประชาธิปไตยเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องเฝ้าติดตาม แต่ไม่ได้ ไปแอบสังเกตการณ์หรือทำอะไรลี้ลับ ทุกคนทำอะไรเปิดเผยบนดินเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้การสนับสนุนไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือขัดแย้งก็ตาม


ช่วงเย็นวันเดียวกัน ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดงานเสวนาทางวิชาการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ถือเป็นการรวมตัวใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งแรกในรอบ 1 ปีเศษ มีประชาชนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯหน้าเก่าทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด รวมทั้งแกนนำพันธมิตรฯทยอยเดินทางมาร่วมงานจนล้นออกมานอกหอประชุม ต้องมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์เพื่อให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่นั่งอยู่ด้านนอกหอประชุมได้รับชม ขณะเดียวกันที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งทางเข้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มผู้ชุมนุม 300 คน อ้างตัวเป็นกลุ่มประชาธิปไตยเพื่อประเทศไทยก้าวหน้า และชมรมแท็กซี่อีสาน ปักหลักรวมตัวกันโดยใช้รถกระบะเป็นเวทีพร้อมเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก ปราศรัยโจมตีการชุมนุมของพันธมิตรฯด้วยถ้อยคำหยาบคาย มีการถือป้ายข้อความว่า “เทิดทูนเผด็จการ รวมกลุ่มกันประหารชาติไทยรอบสอง กำจัดประชาธิปไตย กลุ่มพันธมาร” ท่ามกลางการตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยของตำรวจกว่า 2 ร้อย โดยยังพบว่ามีแกนนำกลุ่มต้านพันธมิตรฯปะปนเข้ามาในบริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อาทิ นายสุชาติ นาคบางไทร อดีตแกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เป็นต้น 


 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯเริ่มทยอยมากันมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องตั้งจอมอนิเตอร์ 2 จุด
 
บริเวณหน้าหอประชุมศรีบูรพา และลานประวัติศาสตร์ ขณะที่บนเวทีภายในหอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ก็เริ่มมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างดุเดือด จากตัวแทนนักศึกษา ส่วนนอกห้องประชุม มีการเปิดร้านขายของจากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ขายหนังสือการเมือง และเสื้อรณรงค์ รวมทั้งมีการแสดงละครการเมืองล้อเลียนการเมือง “หมัก 1” ที่พยายามจะโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งมีการตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อของประชาชนเพื่อยื่นถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ระหว่างนั้นผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ จำนวนหนึ่งได้นำตุ๊กตารูปหมูมีข้อความว่า “เราไม่อยากให้อันธพาลมาครองเมือง” รวมทั้งชูป้ายผ้าที่มีข้อความเสียดสีนายกฯมาชูที่หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งผลให้กลุ่มต้านพันธมิตรฯอีกกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มสมาพันธ์ ประชาธิปไตยเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ที่เปิดเวทีกล่าวโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯอยู่ที่บริเวณประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกิดความไม่พอใจ และด่ากลับด้วยคำหยาบคาย บางรายได้ปาขวดน้ำ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย ก้อนหินถูกรถของ ขสมก.ที่แล่นผ่าน และรถของประชาชน จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายอยู่พักใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ต้องประกาศให้ผู้ชุมนุมฝั่งสนามหลวงอยู่ในความสงบ


ต่อมาเวลา 19.15 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงว่า

ขอประณามฝ่ายตรงข้ามที่ปาขวดน้ำและก้อนหินเข้ามาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แม้จะมีการกำชับฝ่ายรักษาความปลอดภัยและมวลชนของกลุ่มพันธมิตรฯไม่ให้ตอบโต้ แต่ก็สุดความสามารถของเรา ทำได้แค่ห้ามปรามเท่านั้น สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ประเมินว่าประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย ล่าสุด 5 แกนนำพันธมิตรฯมีมติในการปรับโครงสร้างของพันธมิตรฯเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยจะจัดตั้งกรรมการ 6 ชุด ประกอบด้วยคณะกรรมการติดตามตรวจสอบคดีความที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคพวก คณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ คณะกรรมการติดตามการแทรกแซงสื่อ คณะกรรมการติดตามการแก้รัฐธรรมนูญ คณะกรรมการติดตามการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม และคณะกรรมการติดตามการขายรัฐวิสาหกิจ จะเป็นการรองรับการเคลื่อนไหวใหม่ที่ไม่ใช่การชุมนุม แต่อาจเป็นการจัดรายการยามเฝ้าแผ่นดินในต่างจังหวัด

กรรมการทั้งหมดจะมีการประชุมกับ 5 แกนนำ เพื่อกำหนดภารกิจอีกครั้ง ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น กลุ่มพันธมิตรฯยืนยันคัดค้าน แม้สถานการณ์จะบีบบังคับให้ลงไปบนถนนอีกก็ตาม หากรัฐบาลมีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง คงมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์