เสรีพิศุทธ์ ตอบ-คำเดียว พอได้แล้ว

ภายหลัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. เดินทางไปรายงานตัวต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ ที่ทำเนียบรัฐบาล

กรณีถูกคำสั่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ความคืบหน้าเมื่อเที่ยงวันที่ 4 มี.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังคงเดินทางไปทำงานตามปกติที่สำนักงาน ผบ.ตร. ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้หยุดทักทาย พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต รอง ผบ.ตร. นายตำรวจรุ่นพี่ นรต.23 ซึ่งเป็น 1 ใน ก.ตร.ประมาณ 5 นาที ผู้สื่อข่าวจึงพยายามเข้าไปสัมภาษณ์ แต่ พล.ต.อ.เสรี-พิศุทธ์ ปฏิเสธอ้างเพียงสั้นๆว่า “พอได้แล้ว” ก่อนเดินทางขึ้นไปสำนักงานทันที
 

สายวันเดียวกัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจในระดับ ผกก.ขึ้นไป เพื่อมอบนโยบายในเรื่องการเข้มงวดกวดขันสถานบริการให้ปิดตามเวลา

หลังจากมีหลายแห่งอ้างรู้จักสนิทสนมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จนทำให้ท้องที่ไม่กล้ายุ่งเพราะกลัวถูกโยกย้าย ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. มีคำสั่งกำชับให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ตนจึงให้ทุกท้องที่กวดขันสถานบริการทุกประเภท รวมถึงโต๊ะสนุ้กเกอร์ และร้านอินเตอร์เน็ต ให้ทำตามระเบียบของกฎหมายที่กำหนด ไม่ว่าจะเรื่องการปิดตามเวลา ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดเข้าไปในสถานบริการ และกวดขันไม่ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โชว์ลามกอนาจาร หรือมั่วสุมทางเพศ หากยังดื้อแพ่งไม่ปฏิบัติตามจะถูกจับทันที  อาจถึงขั้นสั่งปิดบริการชั่วคราว ส่วนตำรวจท้องที่ต้องรับผิดชอบด้วย หากปล่อยละเลยต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบ และให้มาช่วยราชการหรือถูกเสนอย้ายออกนอกหน่วย
 

ส่วนกรณีการย้าย พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 ไปช่วยราชการ บช.น. เป็นเวลา 30 วันนั้น

พล.ต.ท.อัศวินกล่าวย้ำว่า เป็นไปตามความเหมาะสม เนื่องจากพื้นที่ บก.น.6 จะมีพวกลักลอบขายของเถื่อนหนีภาษี หรือของปลอม รวมทั้งพวกเทปผีซีดีละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก ผู้บังคับบัญชากำชับไปหลายครั้งแล้ว ขณะนี้ได้ให้ พ.ต.อ. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.น.6 รักษาการแทน ผบก.น.6 ไปก่อน ถ้ายังไม่เร่งปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ก็จะถูกลงโทษเช่นกัน
 

ที่กระทรวงมหาดไทย กลุ่มตำรวจชั้นประทวนเดินทางไปเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย

เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการชั้นประทวนที่มีวุฒิปริญญาโทที่ผ่านการสอบคัดเลือกของ บช.ศ.ให้เข้ารับตำแหน่งข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร 300 อัตรา มีคนสอบ 700 คน และเมื่อมีการบรรจุแต่งตั้งแล้วเสร็จ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ในขณะนั้น มีคำสั่งอนุมัติตามข้อเสนอของ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ศ. ให้ขึ้นบัญชีสำรองผู้เข้าสอบข้อเขียนที่เหลืออีก 393 นาย เพื่อจัดสรรตำแหน่งให้ในวาระต่อไป ปรากฏว่ามีการสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนและบุคคลภายนอกที่มีวุฒิปริญญาตรีเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตรอีก 2 ครั้ง จำนวน 3,200 อัตรา แต่ตำรวจที่ขึ้นบัญชีสำรองไว้ก่อนหน้านี้กลับไม่ได้รับความชัดเจนและความคืบหน้าในเรื่องการจัดสรรตำแหน่งตามที่ได้ประกาศไว้
 



ตัวแทนตำรวจชั้นประทวนที่ได้ขึ้นบัญชีสำรอง กล่าวว่า

ที่มาร้องเรียน ร.ต.อ.เฉลิม หวังจะได้รับความเป็นธรรม เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปบอกกับสื่อทั่วไปว่าจะต้องให้ความสำคัญกับข้าราชการตำรวจก่อน แต่กลับไปเปิดให้บุคคลภายนอกสอบคัดเลือก มีการเพิ่มคะแนนพิเศษให้ ถึงขณะนี้แทนที่จะให้ตำรวจชั้นประทวนที่มีวุฒิปริญญาโทเลื่อนไหลไปเป็นชั้นสัญญาบัตรได้ ยังไปเปิดให้ระดับปริญญาตรีมาสอบ แสดงถึงการกลับไปกลับมาของผู้นำองค์กร ทำให้ข้าราชการตำรวจเสียขวัญและกำลังใจ
 

ร.ต.อ.เฉลิม รับปากจะนำเรื่องเข้าหารือกับ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.ให้ว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

และเหตุใดถึงมีการเปิดรับอัตราชั้นสัญญาบัตรเพิ่มขึ้นอีก ขอยืนยันว่าจะช่วยเหลือเต็มที่ เพราะทุกคนมีสปิริตท่วมท้น ไม่ต้องกลัว จะช่วยแน่นอน ชีวิตตนก็เป็นตำรวจมาทั้งชีวิต พ่อของตนก็เป็นตำรวจเหมือนกัน  ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ เจียมไชยศรี คณะทำงานของ รมว.มหาดไทยรับเรื่องไปดำเนินการตามขั้นตอน
 

ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ สมาพันธ์ประชาธิปไตย จัดเสวนาเรื่อง ย้ายบิ๊กข้าราชการรอบคอบ หรือชำระแค้น

มีนายวรพล พรหมมิกบุตร อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ มากกว่า 400 ตำแหน่ง ย้ายทั้งข้าราชการในกองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. ที่กำลังทำคดีคาร์บอมบ์ พล.ต.ต.พีรพันธ์ เปรมภูติ เลขาธิการ ปปง. ดังนั้น นักวิชาการที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้อย่าพึ่งด่วนสรุป การโยกย้ายไม่ได้อยู่ที่ว่าชอบธรรมหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าย้ายแล้วงานของรัฐบาลจะสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกหรือไม่มากกว่า หากข้าราชการคนไหนถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมก็ควรจะใช้กฎหมายมาอุทธรณ์คำสั่ง
 

ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ ประชาธิปไตย กล่าวว่า

ช่วงที่คณะรัฐประหารมาปกครองประเทศ ข้าราชการจำนวนมากถูกโยกย้ายไปเพราะเป็น เพื่อนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตนมองว่าไม่เป็นธรรม เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว การโยกย้ายข้าราชการที่มาจากการรัฐประหารจึงถือเป็นเรื่องที่ชอบธรรม มีรัฐบาลไหนบ้างที่เข้ามาบริหารประเทศแล้วไม่ย้ายข้าราชการ ทุกยุคสมัยเหมือนกันหมด  

ด้าน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ความเห็นว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ได้รับตำแหน่ง

หลังจากที่ คมช.มีคำสั่งย้ายพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ การตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาจาก ความเห็นชอบของนายกฯ ที่ไม่ได้มาโดยความชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามา รัฐบาลนั้นก็จะต้องพิจารณาว่า ใครจะสามารถปฏิบัติตามนโยบายได้มากกว่ากัน ในที่สุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ถูกสั่งย้าย เป็นวันที่ทำงานในตำแหน่ง ผบ.ตร.ครบ 5 เดือนพอดี ยอมรับว่า แนวคิดเรื่องของการเช่ารถตู้ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นเรื่องที่ดี แต่การที่ต้องเช่าไปให้โรงพักเล็กๆ ในระดับตำบลนั้นไม่สมเหตุผล อีกทั้งไม่มีงบประมาณค่าน้ำมันส่งไปให้ การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องมาเสียเงินค่าเช่ารถตู้ 8-9 พันล้านนั้น ฟังแล้วรู้สึกยอกหัวใจ ส่วนการที่นักวิชาการมาพูดวิจารณ์เรื่องของการโยกย้ายนั้น ขอให้คิดในแบบของสถิติมาเปรียบเทียบ กันด้วยว่า สมัยรัฐบาล คมช.กับรัฐบาลชุดนี้นั้น เปรียบเทียบกันแล้วมีการโยกย้ายข้าราชการกันไปแล้วกี่คน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์