รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมแจง สำนักนายกฯ ขอตัว'กอนณา'ไปช่วยงานจริง แต่สุดท้ายถอดใจขอระงับและถอนเรื่องคืน ย้ำชัด ศาลไม่เคยให้ผู้พิพากษาไปช่วยงานฝ่ายบริหาร
สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 มกราคม นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายประสงค์ มหาลี้ตระกูล โฆษกสำนักศาลยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าว กรณีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวว่า สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอยืมตัว น.ส.กอนณา สัตยธรรม ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระโขนง บุตรสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ไปช่วยงานที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
นายสราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ลงนามโดยรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม50 ซึ่งหนังสือดังกล่าวได้ลงรับที่สำนักงานประธานศาลฎีกาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม50 โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า ขอให้ไปช่วยปฏิบัติราชการให้แก่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน50 เป็นต้นไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ หลังจากนั้นเลขาธิการ ประธานศาลฎีกา ได้ส่งหนังสือมายังสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งตนขณะนั้นรักษาการตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้รับหนังสือไว้เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม50 แต่ยังไม่ได้ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ต่อมาวันที่ 29 ตุลาคม 50 สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งขอระงับการยืมตัว น.ส.กอนณาและได้มีหนังสือแจ้งมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน50 ขอถอนเรื่องคืน
“ปกติแล้วการขอตัวผู้พิพากษาไปช่วยงานในหน่วยราชการอื่น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 59 กำหนดไว้ว่า ผู้พิพากษาต้องไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในหน่วยงานที่ขัดหรือแย้งในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชกาตุลาการตามที่ ก.ต.กำหนด ดังนั้นการที่มีบุคคลหรือหน่วยงานใดขอยืมตัวผู้พิพากษาไปทำงานอื่นใดนอกเหนืองานพิพากษาคดี จะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ ก.ต. แต่สำหรับเรื่องนี้สำนักงานศาลยุติธรรมยังไม่ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ ก.ต. เนื่องจากมีการขอระงับเรื่อง และขอถอนเรื่องคืนไปก่อน” นายสราวุธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามปกติแล้วการขอยืมตัวผู้พิพากษาไปช่วยราชการ ตัวผู้พิพากษาเองหรือผู้ใกล้ชิดจะได้รับการติดต่อหรือทราบล่วงหน้าหรือไม่นั้น
นายสราวุธกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ส่วนตัว น.ส.กอนณา หรือนางสดศรี จะทราบมาก่อนหรือไม่ ตนไม่สามารถยืนยันได้ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีการขอยืมตัวผู้พิพากษาไปช่วยราชการลักษณะเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ นายสราวุธกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม จะขอยืมตัวผู้พิพากษาไปช่วยงาน ซึ่ง ก.ต.ก็ไม่อนุญาต เนื่องจากกฎหมายไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้ เพราะการไปดำรงตำแหน่งอื่นที่จะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ไม่สามารถทำได้ เพราะผู้พิพากษามีหน้าที่พิจารณา และพิพากษาคดี หากไปช่วยงานฝ่ายบริหารจะทำให้ขาดความเป็นอิสระ ซึ่งตั้งแต่ปี 43 ที่ศาลแยกตัวเป็นอิสระจากกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่เคยมีผู้พิพากษาไปช่วยราชการฝ่ายบริหารเลย
ส่วนกรณีของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม และนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ขณะนี้ได้ขอโอนย้ายกลับมาเป็นผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมแล้วแต่ในตอนนี้ยังไม่มีการนำเรื่องบรรจุเป็นวาระเพื่อพิจารณาในที่ประชุม ก.ต. เพราะต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ ส่วนการจะรับโอนทั้งสองให้กลับมาหรือไม่นั้นขึ้นยู่กับการพิจารณาของ ก.ต.