“การจะให้โดนใบเหลืองใบแดงทั้ง 65 คนเป็นไปไม่ได้ คงจะมีทั้งใบเหลืองใบแดงคละเคล้ากันไป และอาจจะมีพรรคอื่นโดนบ้าง เท่าที่ประเมินไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต เพราะทั้ง 65 คนของพรรคพลังประชาชน หากโดนสัก 20 ใบก็ยังเหลืออีก 40 กว่าคน เมื่อรวมแล้วพรรคพลังประชาชนก็ยังมีคะแนนเสียงสูงกว่าพรรคประชาธิปัตย์”
ลองถ้าเซียนเก๋าเกมระดับ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย หงายไพ่เล่นกันจะจะซะขนาดนี้
พรรคพลังประชาชนรวบไต๋ได้ แม้ตัวเลขจะยังไม่นิ่ง ยังต้องรอลุ้นชะตากรรม 65 ว่าที่ ส.ส.ที่โดนดอง ซึ่งเป็นจำนวนที่บังเอิญลบกับต้นทุน 233 แล้ว ผลลัพธ์ลดลงไปใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ในระดับที่อีกฝ่ายกลับมาได้ลุ้นเบียดเข้าเส้นชัย แต่ขั้วรัฐบาลไม่น่าจะพลิกโผ และก่อนอื่นต้องยกให้มือประสานหน้าใหม่อย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ได้อกได้ใจจากการยกทีมไปเยี่ยมหัวหน้าพรรคชาติไทยถึงโรงพยาบาล กล่อมจนเสือเฒ่าลายครามอย่าง “บิ๊กเติ้ง” อ่อนระทวย
ยอมปักหลักร่วมหัวจมท้าย ปลาไหลเชื่องเอาดื้อๆ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ โดยบทที่พลิกไปวูบวาบ เบื้องหลังเบื้องลึกมันต้องมีแน่กับลีลาของ “บิ๊กเติ้ง” ที่เล่นบทซื้อใจ แสดงตัวแสดงตนร่วมหัวจมท้ายกับพรรคพลังประชาชน ในเงื่อนไขของการเกลี่ยเก้าอี้รัฐมนตรี ใครมาก่อนจองทำเลทองก่อน หลังจากที่ก่อนหน้าพรรคเล็กทั้งรวมใจไทยชาติพัฒนา มัชฌิมาธิปไตย และประชาราช รับหมั้น ได้สินสอดกันไปแล้วคนละ 1-2 เก้าอี้ ตอบแทนที่ให้ใจ