ซึ่งถ้าพรรคเหล่านั้นไม่ร่วมกับพรรคพลังประชาชนแน่นอน ตนเข้าใจว่าพรรคพลังประชาชนจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะตัวเลขไม่ถึง
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีการพูดคุยกับพรรคเหล่านั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า เรายังไม่ได้คิดถึงการต่อรอง เพราะรอดูท่าทีของพรรคต่างๆก่อน ซึ่งถ้าเขาตัดสินใจไม่ร่วมกับพลังประชาชน เราก็มาพูดคุยกัน ตนต้องพูดคุยถึงสิ่งที่ได้บอกกับประชาชนเอาไว้ โดยพูดคุยถึงการทำงานเป็นหลัก แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปสรุปว่าเป็นอย่างไร
“ผมคงไม่คิดไปจัดตั้งรัฐบาล ถ้าไม่สามารถทำงานเพื่อประชาชนตามที่บอกไว้ได้ แต่ขณะนี้ต้องรอดูท่าทีของพรรคต่างๆก่อน และถ้าเราตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้ ขอยืนยันว่าต้องเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและทำงานได้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลต้องพูดคุยให้ชัดเจนว่าเป้าหมายการตั้งรัฐบาลคืออะไร และหัวหน้ารัฐบาลต้องรับผิดชอบดูแลทุกเรื่อง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่ารู้สึกผิดหวังกับผลคะแนนที่พรรคได้รับหรือไม่ และจะต้องมีการปรับปรุงอะไรบ้าง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
นักวิเคราะห์หรือสื่อมวลชนเคยบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.130 ที่นั่ง ขณะที่พรรคตั้งเป้าว่าจะได้เกิน150 -170 ที่นั่ง เพราฉะนั้น การที่เราได้ 166 ที่นั่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนการปรับปรุงตัวของพรรคนั้น ทุกพรรคก็ต้องทำตลอดเวลาอยู่แล้ว ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้พูดคุยกับใคร เพราะเมื่อคืน (23 ธ.ค.) สื่อรายงานว่านายบรรหาร อยู่ที่บ้านของนายวัฒนา อัศวเหม ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน ทั้งนี้ ตนพยายามรักษามารยาทและให้เกียรติพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 ก่อน ซึ่งถ้าไม่มีพรรคใดจะไปร่วมรัฐบาลกับเขาหรือเสียงของพรรคพลังประชาชนไม่พอ ถึงเวลานั้นก็ค่อยคุยกันอีกที เพื่อไม่ให้เกิดลักษณะที่เป็นการแย่งกันจัดตั้งรัฐบาล