โอ๊คควงน้องสาวใช้สิทธิ์ ครวญพ่ออยากกลับบ้าน

"พานทองแท้" ควงน้องสาวไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ครวญ"พ่ออยากกลับเมืองไทย" ด้าน"เทพเทือก" พร้อมลูกชาย-ลูกสาวใช้สิทธิ์ที่บ้านเกิด ย้ำมั่นใจกวาดที่นั่งไม่น้อยกว่า 170 ที่นั่ง พร้อมจัดตั้งรัฐบาล

(23ธ.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมด้วยน้องสาวอีกสองคน

คือน.ส.พิณทองทาและน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 15 แขวงบางพลัดเขตบางพลัด ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 12 กรุงเทพฯโดยนางสาวพิณทองทา กล่าวกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะกลับมาเมืองไทยในวันที่ 14 ก.พ.ว่า คุณพ่อคิดถึงคนไทย และอยากจะกลับมาเมืองไทย ขณะที่นายพานทองแท้ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้แต่หากมีโอกาสเมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับมา
 

ด้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมครอบครัว เดินทางไปลงคะแนนเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 11 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร แล้วพร้อมกับกล่าวว่า

รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และอยากให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด ส่วนผลของการเลือกตั้งคาดว่าจะรู้ผลไม่เกิน 22.00-23.00 น. และเห็นว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยดี เพราะประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิกันมาก
 
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี บรรยากาศการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ที่ จ.สุราษฎร์ธานีว่า

ในเขตตัวเมืองมีความคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบางหน่วยเลือกตั้งมีประชาชนรอเข้าคิวก่อนเปิดหีบบัตรเลือกตั้งเวลา 08.00 น. ส่วนตามหน่วยเลือกตั้งรอบนอกมีประชาชนทยอยเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเรื่อยๆเช่นเดียวกัน แต่ยังน้อยกว่าในเขตตัวเมือง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ต้องรอกรีดยางให้เสร็จก่อนเดินทางไปใช้สิทธิ์

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 2 ม.2 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูตราสัญลักษณ์ พร้อมด้วยนายแทน เทือกสุบรรณ, น.ส.น้ำตาล เทือกสุบรรณ และ น.ส.น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ ทั้งสามคนเป็นลูกชายและลูกสาวของนายสุเทพ เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยนายสุเทพ อยู่ลำดับที่ 3 ส่วนลูกชายและลูกสาวลำดับที่ 4,5และ 6 บ้านเลขที่ 1/1 ม.2 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งที่หน่วยเลือกตั้งแห่งนี้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 853 คน เป็นผู้ชาย 427 คน ผู้หญิง 426 คนและใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า 35 คน
 

ภายหลังลงคะแนนเลือกตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า

 เมื่อวานที่ผ่านมาหาเสียงจนหมดเวลาตามที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดและตลอดทั้งคืนไม่มีอะไรผิดปกติ จนถึงตอนนี้ยังมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่งไม่น้อยกว่า 170-180 ที่นั่ง โดยทำเต็มที่แล้วทั้งภาคตะวันเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่วนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ทั้งนี้โดยเสถียรภาพของรัฐบาลต้องไม่ต่ำกว่า 4 พรรคขึ้นไปจึงจะมั่นคง โดยตอนนี้ยังบอกไม่ได้มากนัก ต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า

โอกาสที่จะรวมพรรคนั้นไม่จำกัด กี่พรรคก็ได้ไม่มีปัญหา ยกเว้นพรรคพลังประชาชน ส่วนพรรคชาติไทย เคยมีการคุยกันก่อนและเป็นเพื่อนเก่ามานาน ทั้งนี้ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า

ภายหลังลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ ทันทีเพื่อไปรอลุ้นผลการเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. พร้อมนางปฏิมา โกษะโยธิน เดินทางมาใช้สิทธิเลือกสส.ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 เขตคลองเตย บริเวณอุทยานเบญจสิริ โดยอยู่ในลำดับที่ 292 และ 293

ทั้งนี้นายอภิรักษ์เปิดเผยหลังลงคะแนนว่า

ในช่วงเช้าถือว่ามีประชาชนทยอยมาใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนอยากเชิญชวน ให้ประชาชน ได้มาลงคะแนนเสียงที่สำคัญรักษาสิทธิ์ จนถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งตนอยากเห็นประชาชนมาใช้สิทธิ์ กันมากๆ เป็นไปตามเป้าที่กกต.ตั้งไว้ 70 %

ทั้งนี้ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์กล่าวว่า

การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคถือว่าทำดีที่สุด ถ้าคนมาใช้สิทธิ์มาก ๆ พรรคก็อาจจะมีสิทธิ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของประชาชน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง จะไม่เกิดเหตุความวุ่นวาย แต่อยากให้ ประชาชนเกิดความปรองดองตามพระราชกระแสดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อยากเห็นคนไทยสามัคคีปรองดองกัน เพื่อให้ประเทศชาติสงบสุขต่อไป

ส่วนกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเดินทางกลับไทยในต้นปีหน้า

ตนถือว่าท่านมีสิทธิเดินทางกลับประเทศได้อยู่แล้วและโดยส่วนตัวอยากให้เดินทางกลับมาใช้สิทธิ์ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถือว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้หลีกเลี่ยงความรู้สึกแตกแยกในชาติต่อไป

สำหรับบรรยากาศการเลือกตั้งที่อุทยานเบญจสิริ ประกอบด้วย 3หน่วยเลือกตั้ง

 หน่วยเลือกตั้ง 1, หน่วยเลือกตั้งที่ 2 และหน่วยเลือกตั้งที่ 3แขวงคลองตันและแขวงคลองเตย เขตคลองเตย ตั้แต่ช่วงเช้ามีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ส่วนนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สุพรรณบุรี พร้อมนายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชาย ผู้สมัคร ส.ส.เขตเดียวกัน เดินทางไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 สมาคมชาวสุพรรณบุรี เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ระหว่างที่นายบรรหารตรวจรายชื่อ ได้กล่าวย้ำกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งว่าให้อธิบายให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิเข้าใจว่าบัตรเหลืองบัตรแดงเป็นแบบใด

นายบรรหาร กล่าวว่า

สบายใจที่มีการเลืกตั้ง ได้ย้ำกับผู้สมัครของพรรคว่าอย่าให้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตอนนี้มีโพลจำนวน ส.ส.ที่คาดว่าจะได้แล้ว เบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 แน่นอน แต่ไม่ถึง 50 "ขอภาวนาให้การลงคะแนนเสียงคราวนี้ให้เป็นในทิศทางที่ดี สามารถเกิดการปองดองสมานฉันท์ได้ เพราะเมืองไทยเรามีพระสยามเทวาธิราช คงจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดของประเทศ ตอนนี้เอาใจช่วยทุกพรรคในการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ ถ้าพรรคไหนมีสิทธิในการจัดรัฐบาลก็เอาใจช่วย และหลังการเลือกตั้งไม่น่าจะมีอะไรวุ่นวาย และต้องดูคะแนนที่ออกมา ถ้าเละเทะก็น่ากลัว แต่คะแนนเสียงออกมาเป็นกอบเป็นกำก็ไม่น่ามีปัญหา "

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าพรรคลำดับ 1-2 ตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคที่ 3 - 4 พร้อมหรือไม่ที่จะตั้งรัฐบาล นายบรรหาร กล่าวว่า

ไม่ค่อยได้ยินคำถาม ตอนนี้หูตึง พรุ่งนี้ถึงจะได้ยิน

เมื่อเวลา 09.45 น. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รองหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้เดินทางมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1

 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ที่ใต้อาคารจอดรถ โรงเรียนนานาชาติ เพรพ สุขุมวิท 53 โดย นายเอนกกล่าวภายหลังลงคะแนนว่า เป็นห่วงการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากการเลือกตั้งตนขอฝากความหวังไว้กับผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะไปจัดตั้งรัฐบาล ขอให้แต่ละพรรคทำเต็มฝีมือเพื่อให้บ้านเมืองได้อยู่รอด

ขณะเดียวกัน ตนก็เป็นห่วงหากคะแนนที่ออกมาสูสี

ก็จะเกิดการยื้อแย่งเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ตนจึงหวังว่าพรรคที่ไม่ใช่พรรคใหญ่ 2 พรรค คงจะช่วยกัน ส่วนจุดยืนพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นทางพรรคคำนึงถึงความอยู่รอดของบ้านเมืองเป็นหลักและความสามัคคีของประเทศชาติมากที่สุด อย่างไรก็ตามการจัดตั้งรัฐบาลคงใช้เวลาระยะหนึ่งและคิดว่าก่อนปีใหม่คงจะได้นายกฯ แต่การจัดตั้งรัฐบาลคงต้องรออีกสักพัก เพราะแต่ละพรรคคงต้องกลับไปจัดการปัญหาภายในพรรคเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เมื่อเวลา 09.50 น.ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 42 ซอยประชาชื่น 5 เขตบางซื่อ กทม. พล.อ.ชษฐา ฐานะจาโร หน.พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้เดินทางมาใช้สิทิเเลือกตั้งและให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นกรณีการจับขั้วตั้งรัฐบาลว่าตอนนี้ไม่ได้คุยกับใคร เพราะทุกคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเบื้องต้นได้มอบหมายให้ร้อยตรีประภาส ลิมปพันธ์ รองหัวหน้าพรรรคและนายประดิษฐ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ไปเจราจาส่วนสูตรการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ที่นายอภิสิทธิ์เสนอมาก่อนหน้านี้จะเป็นไปได้หรือไม่นั้นพล.อ.เชษฐา ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกหลังเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงจำนวนสส.ที่คาดว่าได้รับเป็นอย่างไร พล.อ.เชษฐายืนยันว่ายังคงตัวเลขเดิมคือ 30 คนแต่อาจได้ 35 คน

เพราะพรรคเร่งเครื่องในช่วงโค้งสุดท้าย ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่พล.อ.เชษฐากล่าวว่าไม่น่าเปลี่ยนได้เพราะดูจากประชาชนในต่างจังหวัดแต่ก็อาจเปลี่ยนได้หากประชาชนไปเลือกตั้ง และกกต.ควรเข้มงวดมากกว่านี้ ตั้งแต่การแจกใบแดงที่ควรให้ตั้งแต่แรกหรือควรมีมาตรฐานที่อ่อนแข็งที่ลงตัวจะดีกว่านี้หากเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ว่าจะได้เป็นนายกฯแบบส้มหล่นพล.อ.เชษฐา ยิ้มและหัวเราะพร้อมตอบว่า หากส้มหล่นตนก็จะรับ ส่วนอาการงูสกัดหายดีแล้วเพราะตนเป็นคนตายยาก