เปิดชัดๆ 5 เหตุผลที่ศาลยกฟ้อง ทักษิณ คดี ม.112

ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาหลีใต้เมื่อปี 2558 โดยศาลได้ให้เหตุผลประกอบการยกฟ้องที่สำคัญ ดังนี้

1. ขาดเจตนาหมิ่นประมาท
ศาลพิจารณาจากคลิปสัมภาษณ์แล้วเห็นว่า นายทักษิณไม่ได้ระบุชื่อบุคคลในสถาบันฯ โดยเจาะจง แต่ใช้คำกว้างๆ อย่างเช่น "เขา", "องคมนตรี", "ทหาร", "Palace Circle" หรือ "คนในวัง" ซึ่งการใช้ถ้อยคำเหล่านี้ไม่สามารถตีความได้ว่ามีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

2. พยานโจทก์ขาดความน่าเชื่อถือ
ศาลตั้งข้อสังเกตว่า พยานบางปากของฝ่ายโจทก์ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองที่ต่อต้านนายทักษิณมาก่อน ทำให้มีข้อสงสัยเรื่องความเป็นกลาง จึงต้องพิจารณาคำเบิกความอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ พยานบางคนยังยอมรับว่าหลักฐานคลิปวิดีโอไม่ใช่ต้นฉบับ ทำให้หลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

3. เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง
ศาลเห็นว่าโดยวิญญูชนทั่วไป การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์รัฐประหาร และพาดพิงถึงบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายหรือทำให้สถาบันฯ เสียชื่อเสียงตามที่ถูกกล่าวหา

4. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่สมบูรณ์
เมื่อข้อหาหมิ่นประมาทตามมาตรา 112 ไม่เป็นความผิด ข้อหาการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรจึงไม่สมบูรณ์ตามไปด้วย ทำให้นายทักษิณพ้นจากความผิดในข้อหานี้

5. ขาดพยานหลักฐานในข้อหาแสดงความอาฆาตมาดร้าย
โจทก์ไม่ได้นำพยานหลักฐานใดๆ มายืนยันว่านายทักษิณแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันฯ ทำให้ศาลไม่สามารถรับฟังข้อกล่าวหานี้ได้

บริบทสำคัญของคดี: คดีนี้มีที่มาจากคลิปสัมภาษณ์ในปี 2558 ซึ่งถูกเผยแพร่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ แม้โจทก์จะอ้างว่าเนื้อหามีการหมิ่นประมาท แต่ศาลเห็นว่าหลักฐานที่นำมาใช้ไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์ความผิด ทำให้ตัดสินยกฟ้องในที่สุด

หลังคำตัดสิน นายทักษิณเดินทางออกจากศาลพร้อมกับทนายความ ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารอให้กำลังใจ โดยนายวิญญัติ ชินวัตร ทนายความของนายทักษิณระบุว่า คำพิพากษาของศาลมีความชัดเจนและครบถ้วน ทำให้ฝ่ายโจทก์มีโอกาสอุทธรณ์ในประเด็นข้อเท็จจริงได้ยาก