อนุทินตั้งกรรมการสอบผู้ว่าฯเชียงราย ไม่อยู่พื้นที่แก้น้ำท่วม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง อนุทินตั้งกรรมการสอบผู้ว่าฯเชียงราย ไม่อยู่พื้นที่แก้น้ำท่วม
"อนุทิน" ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หลังไม่อยู่ในพื้นที่เพื่อสั่งการช่วยเหลือน้ำท่วม ย้ำหลังวันที่ 1 ต.ค.นี้ การทำงานของหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อวันที่ (29 ก.ย.2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถึงการทำหน้าที่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงราย หลังถูกตั้งข้อสังเกตว่าช่วงที่เกิดอุทกภัยนั้น มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน แต่กลับไม่พบนายพุฒิพงศ์ในพื้นที่ โดยจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้
นอกจากนั้น ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครม.ชุดใหญ่ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา นายพุฒิพงศ์อยู่รายงานสถานการณ์เพียงไม่นานก็เดินทางกลับ และปรากฏตัวในพิธีเกษียณราชการที่ กทม.
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เป็นปัญหาและพฤติกรรมเดิมที่ไม่มีความจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่ เพราะชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม เท่ากับทิ้งงานแล้วให้นายกรัฐมนตรีมาทำแทนใช่หรือไม่ ส่วนจะอ้างว่าเกษียณอายุราชการคงไม่ได้ และหากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เข้ามาช่วยในพื้นที่ ก็จะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบเร่งด่วนได้
ส่วนกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เมื่อนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จำเป็นต้องมีข้าราชการมารอต้อนรับหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ควรต้องมา เพราะถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันและเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยในวันที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ มีเพียงนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เดินทางมาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ส่วนรองผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 1 คน จะเกษียณอายุราชการ ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 2 คน ไปรายงานตัวเรียนหลักสูตร วปอ. ส่วนตัวเห็นว่าไม่ใช่เวลาที่จะไปด้วยซ้ำ ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้ แม้จะต้องสละสิทธิเรียน วปอ. ก็ต้องสละสิทธิ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายก็ไปร่วมพิธีเกษียณฯ ใน กทม. แล้วปล่อยให้ประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก ถือว่าไม่ถูกต้อง
นายอนุทิน ยังขอให้มั่นใจว่าตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป การทำงานในกระทรวงมหาดไทยจะเป็นไปในทิศทางที่เป็นปึกแผ่น มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ คำนึงถึงเรื่องภัยจากน้ำท่วมเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด