นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ดีใจประชาชนได้เงินหมื่น แย้มเรื่องเฟส2-เฟส3
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรังมานานหลายปี ไม่ใช่เพียงแค่ผลจากปัจจัยภายใน แต่ยังมีผลจากเศรษฐกิจทั้งโลกที่ฟื้นตัวช้า ซ้ำเติมด้วยปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค และยังไม่รวมกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราก็ได้รับผลกระทบเกิดเหตุอุทกภัย ซึ่งถือเป็นครั้งที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
หลายปัจจัยที่กล่าวมา ทำให้เศรษฐกิจไทยฝืดเคือง สถานการณ์ไม่เอื้อให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เงินในระบบหาย เงินไม่หมุนเวียน คนไทยขาดเงิน ต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อการดำรงชีวิต ค้าขายยาก เดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า ซึ่งกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่สุด คือ กลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยรวมถึงผู้พิการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจ หลายโครงการได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว สานต่อมายังรัฐบาลนี้ในวันนี้ และมีแผนที่จะทำต่อในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น การพักหนี้เกษตรกร การลดดอกเบี้ย ส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านนโยบายฟรีวีซ่า ทำให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ
วันนี้ประเทศไทยจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ เงินสดถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552.40 ล้านบาท สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก ที่ทำให้คนไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในภาพใหญ่ ต่อลมหายใจให้พี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อน
ทุกคนจะได้รับเงินสดคนละ 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านช่องทางการรับเบี้ยเดิมของผู้พิการ ไม่ว่าจะเคยได้รับเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือได้รับเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็จะได้รับเงินในวิธีการเดิม
ที่สำคัญเงินจำนวนนี้ไม่มีเงื่อนไขในการใช้จ่ายแต่อย่างใด เมื่อเงินเข้าบัญชีสามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด และถึงมือพี่น้องประชาชนมากที่สุด ซึ่งการโอนเงินจะทยอยโอนให้ถึงมือพี่น้องประชาชนภายใน 4 วันโดย เริ่มที่วันนี้เป็นวันแรก
นโยบายนี้จะช่วยกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน สร้างโอกาส สร้างความหวัง นำไปสู่การพัฒนาเพื่อต่อยอดคุณภาพชีวิต ให้พี่น้อง มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้
เงินหนึ่งหมื่นบาทเป็นจำนวนที่จะทำให้พี่น้องประชาชนหลายคนมีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ มากพอที่เมื่อรวมกันหลายคน สามารถนำไปลงทุนทำมาค้าขาย สร้างหรือต่อยอดธุรกิจพร้อมรับโอกาสดีๆ ที่จะเข้ามา รัฐบาลเราเชื่อในศักยภาพของพี่น้องคนไทยเสมอ เมื่อมีโอกาสมาถึงมือจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน รวมถึงพี่น้องหลายคนที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยจะได้รับการช่วยเหลือเพิ่มเติม ผ่านนโยบายนี้ได้อีกทางหนึ่ง
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประชาชนมี Digital ID เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรัฐบาลและประชาชน ทำให้การทำธุรกรรมต่างๆกับหน่วยงานรัฐสะดวกขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ เช่นการให้เงินช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ การชำระค่าไฟ เป็นต้น
และพี่น้องประชาชนสามารถติดตามข่าวสารและตรวจสอบข้อมูล ได้ที่ทุกช่องทางของกระทรวงการคลัง และ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จากนั้น น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะเริ่มดำเนินการโครงการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเฟสสองและเฟสสามจะเริ่มต่อทันทีเลยหรือไม่ว่า ตอนนี้กำลังวางเรื่องของระบบอยู่ ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดทั้งหมด
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ประชาชนตั้งตารอตั้งแต่เที่ยงคืน เพื่อจะเช็กเงินถือเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่เที่ยงคืนหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจกับประชาชนด้วย และรัฐบาลอยากให้พายุหมุนลูกนี้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า รู้สึกดีใจกับประชาชนด้วย และดีใจกับรัฐบาลทั้งหมด อยากให้พายุหมุนลูกนี้ ทำให้เศรษฐกิจดี