บิ๊กโจ๊ก เดินหน้าฟ้องคนนี้? จงใจใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แม้ว่าศาลจะออกหมายจับตนในคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่ก็เป็นเพราะตนไม่ไปตามหมายเรียก ไม่ใช่เพราะตนเองกระทำความผิด แต่การที่กูรูท่านนั้น ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นความขัดแย้ง ก็มีหน้าที่เพียงตรวจสอบ และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้มีหน้าที่ออกมาพูดวินิจฉัยเรื่องคดี หรือพิพากษาคดีเองแทนศาล รวมถึงต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ฟังความและพยานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคดีถึงที่สุด ก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการที่กูรูให้ความเห็นคดีชี้นำสังคม ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่าตนเองรับเงินเว็บพนันจริง หรือมีความผิดฐานฟอกเงิน จึงเข้าข่ายหมิ่นประมาท
ส่วนการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) ก็ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของคณะกรรมการ ตนไม่ขอแทรกแซง แต่กระบวนต้องถูกต้องและชอบธรรม เคารพสิทธิ์ตนเองด้วย ซึ่งตนเองไม่กังวลว่าจะถูกครหาที่วันนี้ออกมายื่นฟ้องหนึ่งใน ก.ตร. ยืนยันตนเองมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่หรือฟ้องปิดปาก เพียงออกมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ใครไม่โดนแบบตนเองก็คงไม่รู้ ส่วนผลการประชุม ก.ตร. หากออกมาเป็นลบกับตนเอง ตนเองก็ยังมีช่องทางที่จะเรียกร้องสิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อได้ ตอนนี้เพียงรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
อย่างไรก็ตามวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ตนเองเตรียมยื่นฟ้องกูรูอีก 1 คนด้วยในความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย
ทั้งนี้ตนเองยอมรับว่าที่ผ่านมามีความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง โดยเป็นความขัดแย้งหลายระดับตามที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงข่าวจริง
ส่วนที่ทนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นำรถส่วนตัวไปจอดที่จอดรถประจำตำแหน่งของตนเองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอ้างว่าพูดคุยกับสำนักงานของตนเองแล้วนั้น ยืนยันว่าตนเองไม่ทราบเรื่อง ไม่มีการประสานใดๆ มา