บิ๊กโจ๊ก ร้องดะ! ยื่นเอาผิดนายกฯ-พนง.สอบสวน สาเหตุนี้?
พร้อมแถลงว่า วันนี้ตนต้องต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง จากการดำเนินการต่างๆเกือบ 6 เดือน อย่างไม่เป็นธรรม และมีการดำเนินการทางวินัยจนถึงขั้นให้ออกจากราชการไว้ก่อน วันนี้ตนจึงต้องใช้สิทธิต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามตนไม่กังวล และเชื่อมั่นว่ายังไงตนต้องได้กลับมา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า จากการดำเนินคดีลูกน้องของตน 8 คน และมีการกล่าวหาตน และลูกน้องอีก 5 คน ซึ่งทั้ง 2 คดี ป.ป.ช.ได้เรียกสำนวนกลับไปดำเนินการ เพราะอยู่ในอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนเห็นเส้นเงินทั้งหมดแล้ว แต่มีการแยกดำเนินคดีเป็นตอนๆ ทั้งที่หากเป็นคดีความผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องส่ง ป.ป.ช.เป็นคดีเดียวกัน จะแยกเป็นหลายคดีแล้วสอบสวนไม่ได้ แต่กลับมีการแจ้งข้อหาตนแค่ฟอกเงิน ทั้งที่พยานหลักฐานเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมดกับคดีของลูกน้องตน และมีการเก็บคดีไว้ 4 เดือน ก่อนจะมีการออกหมายเรียกตน ซึ่งตนก็โต้แย้งว่าคดีดังกล่าวเป็นอำนาจ ป.ป.ช. และเมื่อมีการออกหมายจับตนแล้ว ตนเข้ามอบตัว แต่ไม่มีการส่งสำนวนไปที่ ป.ป.ช. เพราะรอให้ตนโดนคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่พอตนโดนคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วกลับส่งสำนวนให้ป.ป.ช.เลย
"เมื่อการสอบสวนไม่ชอบทุกอย่างมันล้มทั้งกระดาน ไม่ต้องไปพิจารณาในเนื้อสำนวน เพราะการสอบสวนมิชอบ เมื่อต้นไม้เป็นพิษผลก็เป็นพิษหมด เพราะฉะนั้นคดีนี้คนดำเนินคดีควรไปคิดดีๆเสียก่อน ไม่งั้นผู้กำกับ สน.เตาปูนไม่ออกมาลาออกหรอก ดังนั้นการให้ผมออกจากราชการทำได้ แต่หลังจากทำไปแล้วมันจะเป็นหนังคนละม้วน"
"วันนี้ไปคิดดีๆว่าใครหลอกใคร ใครถูกหลอก ไปนั่งเอาหัวชนกันให้ดี เพราะการส่งผมกลับแล้วให้ โดยมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนแยบยล มีการแบ่งานกันทำ ก็ต้องไปดูดีๆ"
ทั้งนี้ในเรื่องวินัยขณะนี้ตนเตรียมยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่าเรื่องวินัยก็มีการดำเนินการไม่ชอบด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ยืนยันว่าหากสอบสวนโดยชอบและเป็นธรรมตนยอมรับ และหากผิดจริงตนยอมออกเลย แต่วันนี้สอบสวนอย่างไม่เป็นธรรมตนเลยต้องสู้
ส่วนเรื่องเอกสารที่มีการร้องเรียนกรรมการ ป.ป.ช.นั้นตนขอไม่พูด แต่ก็ปรากฎตามเป็นข่าว แต่ยืนยันว่าใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น