บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก แถลงเคลียร์ใจสยบรอยร้าว ล่าสุดโดนเด้งคู่!!
หลังจากนี้ คดีที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมดกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และนายตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีเว็ปพนันออนไลน์ โดยตนเป็นคนคิดและตัดสินใจ โทรศัพท์ไปหาพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพื่อชวนไปพบนายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าวันนี้ จากนั้นได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้งสน.เตาปูนและสน.ทุ่งมหาเมฆ ไปให้ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เพื่อความยุติธรรม และไม่เกิดภาพของความขัดแย้งขึ้นอีก
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดเตะสกัดขา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น ทั้งนี้ยอมรับว่า เครียดกับภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะมีปัญหาหลายอย่างเข้ามา แต่ก็พยายามประครองสถานการณ์ โดยตนเหลือเวลาราชการอีกแค่ 194 วัน เป็นการนับถอยหลังที่อยากทำทุกวันให้ดีที่สุด โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจยุติปัญหา คือการโทรศัพท์ไปหา พล.ต.อสุรเชษฐ์ และพาไปพบนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ย้ำในช่วงการแถลงข่าวตอนท้ายว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังมีสิทธิ์ในแคนดิเดต ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะแต่งตั้งช่วงปลายปีนี้
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้พาตนไปพบกับท่านนายกฯ โดย ผบ.ตร. มีแนวคิดที่จะยุติความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ วันนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ตั้งแต่รอง ผบ.ตร. ถึงชั้นประทวนทุกคน มีผู้บังคับบัญชาคนเดียวคือ ผบ.ตร. วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. และตนเอง มีแนวคิดเดียวกัน คือเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน
ส่วนหมายจับหมายเรียกก่อนหน้านี้ จะเป็นกระบวนการของ ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งจะออกหมายเรียก หรือหมายจับ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ซึ่งตนได้อธิบายในส่วนของกระบวนการทางกฎหมายให้เข้าใจ
ทั้งนี้ "บิ๊กโจ๊ก" ย้ำว่า จะทำงานช่วย ผบ.ตร.ส่วนที่ ผบ.ตร. แถลงวันนี้เพื่อให้สังคมเกิดความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งในองกรตำรวจ ขึ้นอีก
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากนี้ ตนจะขอกินข้าวกลางวันกับ ผบ.ตร. ทุกวันจันทร์ - พุธ และศุกร์ ไม่ว่า ผบ.ตร. อยู่ที่ไหน ก็จะขอไปทานข้าวด้วย โดยต้องเสียสละเรื่องราวในอดีต ใครมีคดีก็ต้องไปแก้ข้อกล่าวหา ทุกคนต้องทำงานเต็มที่ วันนี้ถือว่าเป็นการ set Zero ใหม่แล้ว ยืนยันจะไม่มีเอาคืนกับพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีตนเอง เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกนายกรัฐมนตรี ตำหนิ และสังคมมองว่าตนก็ยังเป็นคนเดิม ส่วนตัวเหลืออายุราชการ 7 ปี วันนี้ทุกอย่างจึงต้องให้อภัย เพราะการเป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้จักเสียสละและให้อภัย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จะมีการถอนฟ้องคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่นคดีแจ้งความเอาผิดตำรวจชุดบุกค้นบ้านพัก กว่า 200 นาย ซึ่งมีนายตำรวจยศพลตำรวจเอกถูกแจ้งเอาผิดด้วย 2 นาย และคดีฟ้องหมิ่นประมาท พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่วนกรณีพลตำรวจตรีนำเกียรติ แถลงเส้นเงิน bnk Master ว่ามี ภรรยา , พี่สาว และคนใกล้ชิดนายตำรวจยศสูง ก็จะต้องมีการตรวจสอบวินัย อีกทั้งกรณีนี้ ยังเป็นแค่การพูด ไม่มีตัวตน ส่วนลูกน้องตน 8 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ และถูกผบ. ตร. สั่งมาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ก็จะต้องช่วยราชการต่อไป ทั้งนี้ ย้ำว่า นั่งแถลงวันนี้ ไม่ใช่ สตช.การละคร ไม่ใช่อีเวนท์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าว พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้แสดงความเคารพ โดยการยกมือไหว้และโค้งคำนับ และยืนชิดกันเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ และมีจังหวะที่พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ได้เอื้อมมือมาแตะในลักษณะประคองไหล่ของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วย เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ฟื้นตัวขึ้นใหม่
ทั้งนี้ในระหว่างแถลงข่าว สื่อมวลชนยังขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับ พล.ต.อสุรเชษฐ์ สบตากันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าได้คืนดีกันแล้วจริงๆ ทั้งนี้ยังกล่าวถึงกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายว่าให้ยุติและร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน