สามารถ มั่นใจ พิธา รอด คดีถือหุ้น ITV
สามารถ มั่นใจ พิธา รอดถือหุ้น ITV ประกาศถ้าเทวดาอยากให้โดน พร้อมถือศีลอดข้าว 7 วัน พร้อมขู่นายกฯ เตรียมฟัง สว.ด่าออกทีวีสามวันสองคืน
วันที่ 23 ม.ค. 67 นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า
วันที่ 22 ม.ค. สว.ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญ เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 153 ไปแล้ว สะเทือนรัฐบาลแน่นอน 7 หัวข้อ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมพูดได้ยาวมากพูดถึงเทวดาชั้น 14 และ สว.ก็จะถล่ม เรื่องเงินดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน
"สว.ไม่ได้ออกปากชมรัฐบาลอย่างแน่นอน ส่วนใครที่จะไปรับงานแล้วไปหลอกนายกรัฐมนตรีว่า เดี๋ยวจะไปคุยกับ สว.ให้เชียร์รัฐบาลนั้น ให้ส่งกล้วยมาเป็นเครือๆ ท่านกำลังโดนเขาหลอกอยู่ การอภิปรายของ สว.คือดาบแรกเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องที่จะไปล้มรัฐบาลได้ แต่เป็นเรื่องที่จะเปิดข้อมูล และนายกรัฐมนตรีต้องมานั่งฟังให้ สว.ด่าออกทีวีสามวันสองคืน ทั้งนี้ที่ผมพูดคำว่าในนอกประสานกัน คือในสภาฯและนอกสภาฯ สภาฯนั้นเป็นที่เลือกและปลดนายกฯ โดย สว.ชุดนี้จะอยู่จนถึงวันที่ 11 พ.ค. แต่อำนาจในเรื่องของการเลือกนายกฯสุดท้ายคือวันที่ 24 พ.ค."
นาย สามารถ กล่าวต่อว่า ส่วนวันพุธที่ 24 ม.ค. ที่ศาลจะตัดสินคดีของนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประเด็นการถือครอง 42,000 หุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ตนมั่นใจว่าจากข้อมูลที่นายพิธาจะรอดจากการถือหุ้น แล้วจะได้รับสิทธิ์ สส.คืนกลับมา ได้เดินกลับเข้าสู่สภาฯ แต่ตนยังคิดในมุมกลับว่าถ้านายพิธาโดน ก็จะอยากจะบนบานศาลกล่าวกับเทวดา ถ้าเทวดาอยากให้นายพิธาโดนคดีหุ้นสื่อ และจะถูกย้อนหลังไปถึงปี 62 ตนก็จะอดข้าว 7 วัน โดยจะกินแต่น้ำกับน้ำปานะ และจะไปถือศีลที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย แต่ส่วนตัวยังมั่นใจว่ารอดอยู่แล้วโดยมติ 7ต่อ2 เสียง ถ้าไม่ใครขาดหรือลา
"แต่ในวันที่ 31 ม.ค. มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะไม่สามารถใช้มาตรา 112 หาเสียงได้อีกต่อไป แต่ผมก็คิดว่า ศาลรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจ ยุติเรื่องนี้ให้มันจบไวๆ อย่าไปกลัวม็อบ ไม่มีหรอก ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แล้วสถาบันจะอยู่เหนือการเมืองตลอดไป จะอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป จะไม่มีใครดึงเอาสถาบันลงมาหาเสียง เอามาทำลายล้างกันได้อีก ผมคิดว่าท่านต้องทำในสุดที่ถูกต้อง เหมือนที่ครั้งหนึ่งที่ท่านเคยทำตอนยุบพรรคไทยรักษาชาติ ครั้งนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย"