ก้าวไกล เปิดหลักฐาน ชี้ ‘พิธา’ รอดปมหุ้นสื่อ เชื่อได้เข้าสภา 24 ม.ค.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ก้าวไกล เปิดหลักฐาน ชี้ ‘พิธา’ รอดปมหุ้นสื่อ เชื่อได้เข้าสภา 24 ม.ค.
เมื่อวันที่ 21 มกราคม พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เผยแพร่คลิปความยาว 7.03 นาที เปิดหลักฐาน ข้อเท็จจริง และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะรอดพ้นจาก คดีหุ้นสื่อ (ไอทีวี) ได้กลับมาเป็น ส.ส. และอาจได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาอีกครั้ง
คลิปดังกล่าวพรรคก้าวไกลยกผลโพลต่างๆ สะท้อนความนิยมของนายพิธาและพรรคก้าวไกล จนกระทั่งพรรคก้าวไกลคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง 24 พฤษภาคม 2566 นอกจากนั้นยังระบุว่ามีกระบวนการพยายามทำให้นายพิธาหลุดจากการเป็น ส.ส. ส่งผลเชิงจิตวิทยาต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี จากการกล่าวหาว่า ถือหุ้นสื่อมวลชน อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
พรรคก้าวไกลเปิดหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอขณะ "ไอทีวี" ออกอากาศวันสุดท้าย คือวันที่ 14 มกราคม 2551 ก่อนหลังเวลา 00.00 น. จะปิดตำนาน "ไอทีวี" ไปตลอดกาล
ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลเชื่อว่านายพิธาจะไม่ถูกตัดสิทธิ หรือหลุดจากการเป็น ส.ส. เพราะไอทีวีไม่ใช่สื่อมวลชนแล้ว ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ไม่มีใบอนุญาตคลื่นความถี่ เนื่องจากไอทีวีถูกรัฐบาลไทยแจ้งยกเลิกสัญญาตั้งแต่ พ.ศ.2550
2.ภายหลังมีการออก พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก่อให้เกิด "สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส" ส่งผลให้ไอทีวีต้องเลิกประกอบกิจการโทรทัศน์ รวมถึงยังมีคดีพิพาทเกี่ยวกับค่าเสียหายในศาลปกครองกับรัฐบาลไทยด้วย
3.คิมห์ ประธานการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ยืนยันต่อศาลว่าไอทีวีไม่มีพนักงาน ไม่มีรายได้จากการทำสื่อ ไม่มีการทำสื่อ และยังไม่มีแผนจะทำสื่อ และถ้ายึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะศาลเคยเห็นว่าหากไม่มีรายได้จากการทำสื่อก็ไม่ถือเป็นสื่อ
4.ไม่มีหลักฐานจดแจ้งการพิมพ์ จึงไม่อาจเป็นผู้ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่นได้
5.ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และสื่อโฆษณา จึงไม่อาจประกอบกิจการดังกล่าวได้
6.ศาลปกกครองสูงสุดเคยชี้ว่าไอทีวีไม่ปรากฏหลักฐานการดำเนินการสื่อวิทยุโทรทัศน์แล้ว
หรือต่อให้สมมุติว่าเป็นสื่อมวลชนจริง นายพิธาก็มีหลักฐานว่าไม่ได้ครอบครองหุ้นตั้งแต่วันสมัคร ส.ส. คือตั้งแต่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ตอนเป็น ส.ส.ปี 2562 นายพิธาแจ้งชัดเจนว่า ถือหุ้นดังกล่าวในฐานะผู้จัดการมรดกจากพ่อที่เสียชีวิต
หรือหากศาลมองว่าถือหุ้นสื่อจริง หุ้นดังกล่าวก็มีสัดส่วนเพียง 0.00348% เท่านั้น ไม่สามารถครอบงำ สั่งการ ให้ทำการใดๆ หรือไม่ทำการใดๆ ได้
สรุปแบบให้เข้าใจง่ายๆ คือ
1.ไอทีวีไม่ใช่สื่อ
2.ไอทีวีไม่มีคลื่นความถี่
3.ไอทีวีไม่มีใบอนุญาต
4.ไอทีวีไม่มีรายได้จากการทำสื่อ
5.นายพิธาถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก
และ 6.ถ้านายพิธาถือหุ้นจริงก็ถือเพียง 0.00348% ไม่สามารถสั่งการ ครอบงำใดๆ ได้
พรรคก้าวไกลเน้นย้ำว่า ที่สำคัญคือตอนนี้ไม่มีไอทีวีแล้ว นายพิธาไม่เคยไปออกเวทีดีเบตไอทีวี ไม่เคยใช้ไอทีวีสร้างความนิยมให้ตนและพรรค ไอทีวีไม่เคยออกข่าวใส่ร้ายป้ายสีพรรคอื่น ไอทีวีไม่ได้นั่งจัดรายการเฟคนิวส์ให้ผู้อื่นเสียหาย จนทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ขณะที่นายพิธามีความมั่นใจในข้อมูล ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานทั้งหมดดังนั้น ไม่มีอะไรต้องห่วงกังวล รอติดตามการอ่านคำวิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญช่วงบ่ายวันที่ 24 มกราคม 2567
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายพิธาถูกกล่าวหาว่ามีหุ้นในสื่อมวลชน ITV ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎรชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.66
ชมคลิป
VVVVVV
V
V
VV
V
VV
VVV