อุ๊งอิ๊ง นั่งหัวโต๊ะบอร์ดซอฟต์เพาเวอร์ เคาะแก้ 3 เรื่อง!!
น.ส.แพทองธาร แถลงภายหลังการประชุมว่า การประชุมซอฟต์พาวเวอร์ มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยมี 3 เรื่องในการแก้ไขกระบวนพิจารณาในเรื่องต่างๆ คือ 1.การแก้ไขกระบวนการพิจารณาเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วม พร้อมสนับสนุนเสรีภาพในการออกแสดงของสื่อและเสรีภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งที่ผ่านมามีข้อจำกัดในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างเยอะ การเซ็นเซอร์ของภาพยนตร์ก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากภาคเอกชนมาหลายปี ถึงความไม่สมเหตุสมผลของกฎเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงความไม่ชัดเจนของการพิจารณา วันนี้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง ด้วยการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม คณะอนุกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์สาขาภาพยนตร์และซีรีส์ ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนใน 3 รูปแบบ คือ ส่วนที่ 1 คือการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ โดยจะเปลี่ยนแปลงทั้งสัดส่วนของคณะกรรมการเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตั้งแต่คณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ แต่งตั้งชุดใหม่ แทนชุด 2 ถึงชุด 6 ที่หมดวาระและรักษาการอยู่ในเวลานี้ โดยจะตั้งคณะกรรมการใหม่ 9 ชุด รวมกับชุดที่ 1 ที่ยังไม่หมดวาระ รวมเป็น 10 ชุด โดยจะแบ่งออกเป็นคณะพิจารณาภาพยนตร์ 8 ชุด และคณะพิจารณาด้านเกม 2 ชุด เพราะเกมและภาพยนตร์มีวิธีคิดและมุมมองที่ไม่เหมือนกัน ต้องพิจารณาแยกกัน
ด้าน นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ประชุมกันวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ทั้ง 11 อุตสาหกรรมได้เสนอเรื่องงบประมาณที่ต้องใช้มา 5,164 ล้านบาท บางอุตสาหกรรมเสนอเป็นงบปี 67 บางอุตสาหกรรมเสนอเป็นปี 67 และ 68 รวมกัน หลังจากรับหลักการในครั้งที่แล้วก็มีการทำการบ้าน โดยที่สำนักงบประมาณกับทั้ง 11 อุตสาหกรรม ได้ไปดูว่างบส่วนไหนเป็นปี 67 หรือ 68
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ได้มีข้อสังเกตจากสำนักงบประมาณว่า ในส่วนของงบประมาณ 3,500 ล้านบาท ก็เป็นส่วนที่อยู่ใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่เกือบ 1,000 ล้านบาท ดังนั้น ที่ทั้ง 11 อุตสาหกรรมได้เสนอคำขอมาจะนอกเหนือจากที่หน่วยราชการตั้งไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท
"งบประมาณ 3,500 ล้านบาท ดังกล่าวจะมีการเสนอต่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ในวันที่ 9 มกราคม 2567 ต่อไป" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ตามที่ นางสาวแพทองธาร ได้เน้นย้ำเรื่องการให้เสรีภาพแสดงออกในวงการภาพยนตร์ ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ที่ทำได้เลยตอนนี้คือให้เอกชนสามารถพิจารณาการจัดเรตติ้งภาพยนตร์ได้ เพราะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ที่ตั้งขึ้น เสียงข้างมากและประธานกรรมการคือเอกชน แต่จะต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงต่อไป ให้มาตรการห้ามฉายเหลือเงื่อนไขน้อยที่สุดที่จะเป็นไปได้ ส่วน พ.ร.บ.ภาพยนตร์ และ พ.ร.บ.เกมที่จะออกมาใหม่ จะร่างขึ้นมาโดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการจัดเรตติ้งเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ เพิ่มเติม อาทิ นายชานน สันตินธรกุล หรือ นนกุล เป็นคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านภาพยนตร์, พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล เป็นคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านดนตรี