พิธา พอใจหลังเข้าไต่สวนคดีถือหุ้นไอทีวี ถ้าพ้นข้อกล่าวหา พร้อมทำหน้าที่ ส.ส.ทันที
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พิธา พอใจหลังเข้าไต่สวนคดีถือหุ้นไอทีวี ถ้าพ้นข้อกล่าวหา พร้อมทำหน้าที่ ส.ส.ทันที
พิธา พอใจ หลังเข้าไต่สวนพยานปมถือหุ้นไอทีวี ตอบชัดพร้อมมากหากพ้นข้อกล่าวหา กลับไปทำหน้าที่ ส.ส.ตามเดิม
เมื่อเวลา 11.29 น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวภายหลังเข้ารับการไต่สวนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า
เป็นไปตามที่ได้คาดหวังไว้และพอใจ ซึ่งได้มีการไต่สวนครบทุกประการ ในรายละเอียดตนไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เพราะจะกลายเป็นการละเมิดศาล แต่ในข้อเท็จจริงตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอกันนั้นมีการยุติการประกอบการของไอทีวี ส่วนการเป็นผู้จัดการมรดกของตนก็ได้มีการไต่สวนจากศาลและฝ่ายกฎหมายของผู้ร้องและผู้ถูกร้องอย่างครบถ้วน ในการให้ข้อมูลมีนายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.
เมื่อถามว่ามีการประเมินน้ำหนักข้อมูลหลักฐานทางฝ่ายตนและผู้ร้องหรือไม่
นายพิธากล่าวว่า เรื่องนี้ตนชี้นำไม่ได้ แต่ที่พอจะพูดได้ก็คือตนรู้สึกพอใจ เป็นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ ขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นการนัดฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนจะเป็นวันไหนนั้นต้องรอข้อมูลแจ้งจากทางศาล ทั้งนี้ ตนไม่ได้คาดหวังอะไรจากทางศาล แต่ก็มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม คำพิพากษาที่ออกมาก็หวังว่าจะได้กลับไปทำหน้าที่รับใช้ประชาชน อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าการถือหุ้นไอทีวีเป็นการถือแทนในฐานะผู้จัดการมรดก
เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะทายาทโดยชอบหุ้นในฐานะ เป็นทายาทโดยชอบธรรมใช่หรือไม่
นายพิธากล่าวว่า ตนได้สละเจตนาไปแล้วก่อนเข้าพรรคอนาคตใหม่ และมีการแบ่งปันมรดกกัน ส่วนรายละเอียดคงตอบมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นการชี้นำสังคมและละเมิดศาล
เมื่อถามว่ามีการมองว่า ถึงไอทีวีจะไม่ได้ทำสื่อแล้วแต่ก็สามารถกลับมาทำสื่ออีกได้นั้น
นายพิธากล่าวว่า ถ้าตามเอกสารต้องดูที่ประธานไอทีวีเคยพูดคุยกันในการประชุมผู้ถือหุ้นในปี 2558-2560 ส่วนในรายละเอียดถามนายคิมห์น่าจะเหมาะสมกว่า ตนพูดแทนไม่ได้ แต่ตามเอกสารที่ออกมาก็จะเห็นว่ามีการยุติการประกอบธุรกิจตั้งแต่ปี 2550 และคลื่นก็ไปอยู่ที่ไทยพีบีเอส ส่วนใบอนุญาตไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นการจะกลับมาประกอบกิจการเดิมก็ยังมีเรื่องคดีความเดิมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ที่ศาลปกครองสูงสุด
เมื่อถามว่าเมื่อพ้นข้อกล่าวหาพร้อมที่จะกลับมาทำงานการเมืองทันทีเลยหรือไม่
นายพิธากล่าวว่า แน่นอน