เคาะแล้ว!! เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่9
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เคาะแล้ว!! เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่9
มติพรรค ปชป.เลือก "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 88.5 % ยืนยันพร้อมเดินหน้าสร้างเอกภาพภายในพรรค นำพรรคเดินไปข้างหน้า ลั่นยึดมั่นหลักการและอุดมการณ์พรรค
วันนี้ (9 ธ.ค.66) หลังการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการพรรคชุดใหม่ โดยมีองค์ประชุมทั้งหมด 260 คน ได้ลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรคแบบเข้าคูหาลงคะแนน
จากนั้นนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ กกต.ประจำพรรคฯ ได้ประกาศผลลงคะแนนว่าที่ประชุม เลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ด้วยคะแนนร้อยละ 88.5 ถือว่านายเฉลิมชัย ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9
ก่อนหน้านี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม โดยระบุว่า ผมรู้ว่าการตัดสินใจในวันนี้มันเจ็บ มันทำลายสิ่งที่ผมสร้างมาทั้งชีวิต ผมได้คุยกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ ผมก็พูดว่า ผมกรีดเลือดมาก็เป็นสีฟ้า ตลอดเวลาที่อยู่กับพรรคก็ยึดหลักการและอุดมการณ์ของพรรคไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อพรรคให้โอกาสตนเองเป็นรัฐมนตรี ก็ขอยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าพูดว่า ผมไม่มีมลทินเรื่องนี้ อยู่กระทรวงกล้าค้านข้าราชการ ผมไม่ได้ไปในนามตระกูลศรีอ่อนแต่ไปในนามพรรคประชาธิปัตย์
'ผมมีความจำเป็นต้องให้พรรคเดินไปข้างหน้า และให้พรรคยึดมั่นในอุดมการณ์พรรค และที่ได้คุยกับหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับพรรคมา 22 ปี ที่ผ่านมาแม้พรรคจะเดินสะดุดก็จะพยายามทำทุกอย่างผมจะพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด และไม่มีวันทำลายหลัการและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์'
สำหรับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2508 เป็นคนสามร้อยยอด อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ คนส่วนใหญ่มักเรียก "พี่ต่อ" เริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยการเป็นสมาชิกสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ส.จ.) เป็นเวลา 10 ปี (พ.ศ.2533-2543) เป็นประธานสภาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (พ.ศ.2538-2540)
เข้าสู่เวทีการเมืองระดับประเทศด้วยการเป็น สส.ประจวบคีรีขันธ์ ครั้งแรกในการเลือกตั้ง พ.ศ.2544 และได้รับการเลือกตั้งต่อมาในปี 2548, 2550 และ 2554
เฉลิมชัย ศรีอ่อน ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคกลาง ต่อมาในการปรับ ครม. รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เฉลิมชัยได้รับตำแหน่ง รมว.แรงงาน แทน ไพฑูรย์ แก้วทอง
ต่อมาในปี 2562 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการเลือกตั้งทั่วไป แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เขาแพ้ให้กับพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ จากพรรคเพื่อไทย ไปเพียง 106 คะแนน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถชนะการเลือกตั้งดั่งที่ประกาศไว้ได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรค จึงประกาศลาออกรับผิดชอบต่อผลคะแนน ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
หลังจากนั้นวันที่ 15 พ.ค. ในปีเดียวกัน สมาชิกพรรคก็ได้ลงมติให้ "เฉลิมชัย" ดำรงตำแหน่งเลขาธิการของพรรค
ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฉลิมชัยได้รับแต่งตั้งเป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 ประธานกรรมการในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
หลังจากพ้นตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566 นายเฉลิมชัย แจงบัญชีทรัพย์สินพร้อมคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 102,537,251.90 บาท และมีหนี้สิน 10,530,001 บาท
ส่วนของนายเฉลิมชัย มีทรัพย์สิน 43,281,189.04 บาท และ หนี้สินเป็นเงินกู้จากพี่สาว 10,000,000.00 บาท ขณะที่คู่สมรสมีทรัพย์สิน 59,256,062.86 บาท และ หนี้สิน 530,001.00 บาท
ถือว่า เฉลิมชัย และ คู่สมรส ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2562 มีทรัพย์สินรวม 97,204,912 บาท หนี้สิน 10,000,000 บาท