เศรษฐาแจงยิบ กู้5แสนล้าน แจกดิจิทัล ลั่นถ้าไม่ผ่าน รบ.เสียเอง


เศรษฐาแจงยิบ กู้5แสนล้าน แจกดิจิทัล ลั่นถ้าไม่ผ่าน รบ.เสียเอง


‘เศรษฐา' แจงยิบที่แรก ใช้แหล่งเงินกู้ แบงก์ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล. ไม่กระทบหนี้ปท. มั่นใจพรรคร่วมหนุน พ.ร.บ.กู้เงินฯ โต้ครหาจงใจล้ม ลั่นถ้าไม่ผ่าน คนเสียคือรบ.เอง

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่อาคารบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมายังอาคารมติชน โดยมี นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารเครือมติชน ให้การต้อนรับ และได้มีการหารือถึงนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ที่นายกฯ ได้แถลงรายละเอียดไปในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้

โดย นายเศรษฐา กล่าวว่า
นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลได้แถลงรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ ในวันเดียวกันนี้ ได้กำหนดเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับสิทธิ คืออายุ 16 ปี ขึ้นไป โดยต้องมีเงินเดือนไม่ถึง 7 หมื่นบาท และมีเงินฝากทุกบัญชี รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งจะครอบคลุมผู้ที่ได้รับสิทธิ 50 ล้านคน

สำหรับวงเงินงบประมาณฯ ที่จะใช้ดำเนินการ รัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ขั้นตอนจะส่งเรื่องร่างพ.ร.บ.กู้เงินฯ ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้ขัดกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และไม่เกิดปัญหาในทางปฎิบัติ

จากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา และส่งให้สภาฯ พิจารณาตามกระบวนการ หากผ่านสภาฯ จะส่งให้วุฒิสภาฯพิจารณา ออกเป็น พ.ร.บ.กู้เงินฯต่อไป มีความเชื่อมั่นว่า พรรคร่วมรัฐบาล จะให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว คาดว่า กรอบเวลาที่สภาฯ จะพิจารณาแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม 2567

เมื่อถามว่า แหล่งเงินที่จะกู้มาดำเนินโครงการฯ จะใช้จากแหล่งใด และจะส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะของประเทศหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จะใช้แหล่งเงินภายในประเทศ หลายธนาคารมีความแข็งแกร่งในเสถียรภาพทางการเงิน ส่วนวิธีการสามารถออกเป็น ตราสารหนี้ (Bond) ได้ และไม่กังวลที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้น เพราะมีการศึกษารายละเอียดของโครงการฯมาแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันตัวเลขหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของประเทศ คือ 61.30 % ยังไม่เกินกรอบ 70 % ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกําหนด มีการประเมินว่า หากมีการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนบาท จะทำให้หนี้ธารณะต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นมาประมาณ 64 % ไม่กระทบต่อภาระการคลังของประเทศ โดยรัฐบาลมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี

นายเศรษฐา กล่าวว่า
สำหรับการใช้จ่ายเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะพัฒนาแอพพ์เป๋าตัง ที่มีประชาชนคนลงทะเบียนแล้ว 40 ล้านคน โดยจะพัฒนาผ่านระบบบล็อกเชนมากำหนดพื้นที่การใช้จ่ายเงิน คือ พื้นที่ในเขตอำเภอของผู้ได้รับสิทธิ ระบบบล็อกเชนจะทำให้รัฐป้องกันการทุจริตได้ หากมีใครฝ่าฝืนแก้ไข ทุจริต ระบบฯ ก็จะสามารถตรวจสอบได้ทันที กรอบการใช้จ่าย คือ ภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินโครงการฯ ส่วนการขึ้นเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถขึ้นเงินได้ภายใน 3 ปีนับตั้งแต่เริ่มโครงการฯ จนถึงปี 2570 เพื่อให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียนในห้วงเวลาดังกล่าว

เมื่อถาม ถึงกรณีที่มีฝ่ายค้านออกมาชี้ว่า
กฤษฎีกาคงไม่ให้ผ่าน รวมทั้งหากร้องศาลรัฐธรรมนูญก็คงไม่ผ่าน รัฐบาลรู้อยู่แล้ว แต่ยังใช้แนวทางนี้เพื่อให้โครงการโดนตีตก จะได้ยุติโครงการไป ไม่ต้องทำต่อ นายเศรษฐา กล่าวว่า กฤษฎีกาจะให้ผ่านหรือไม่ตนไม่รู้ ไม่มีใครรู้ได้ แต่ตนมั่นใจว่า การทำทุกอย่างถูกต้องจะดีที่สุด อีกทั้งหากโครงการสำคัญของรัฐบาลนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ คนที่เสียหายคือรัฐบาลเอง ตนต้องเหนื่อยต่อไปในการคิดหาโครงการอื่นมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งยังย่ำแย่อยู่มาก

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า
ใครจะมองอย่างไรวิจารณ์อย่างไรก็แล้วแต่ สำหรับรัฐบาลนี่คือนโยบายหลัก ถ้าทำไม่ได้มีแต่ต้องเหนื่อย เพราะเศรษฐกิจจะไม่ได้รับการกระตุ้นครั้งใหญ่ ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลจงใจจะล้มโครงการ คนที่ตั้งข้อกล่าวหาขออย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐาน สำหรับตนแล้วนโยบายนี้จะปั๊มเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นได้จริงแน่นอน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์