จับตา! “พรรคอนาคตไกล” ใครนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค?

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สนง.กกต.) ว่า ในวันนี้แกนนำระดับบิ๊กของ อนาคตไกล พร้อมกับทีมทนายความ รวมทั้งคณะทำงาน เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ สนง.กกต. เพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติมในการแจ้งเตรียมการจัดตั้ง พรรคอนาคตไกล

ซึ่งจากการตรวจสอบทางทะเบียน พบว่า มีการยื่นเอกสารเตรียมการจัดตั้ง พรรคอนาคตไกลจริง โดยสำนักงานทะเบียนพรรคการเมือง สนง.กกต. ได้รับหนังสือลงเลขรับตามสารบบงานสารบัญของ สนง.กกต. เป็นหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เป็นคำขอแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง เลขที่ 191187 ลงวันที่ 24 ส.ค. 66

หากพิจารณาจากเอกสาร พบว่า ได้มีการระบุชื่อ และชื่อย่อพรรคการเมือง ชื่อภาษาไทย "อนาคตไกล" ชื่อย่อ อนก. ชื่อภาษาอังกฤษ "Far Future Party" ชื่อย่อ FFT.และโลโก้พรรครูปอินฟินีตี้ สีแดง-สีส้ม ตามที่ผู้สื่อข่าวได้รายงานไปแล้ว พร้อมเอกสารประกอบ โดยเจ้าหน้าที่ทะเบียนพรรคการเมือง ได้ตรวจรับคำขอในเวลา 14.50 น. วันนี้ เพื่อตรวจสอบคำขอ และดำเนินการทางทะเบียนต่อไป ถือว่าเป็นขั้นตอนการยื่นเตรียมการจัดตั้ง พรรคอนาคตไกลจริง ตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยขั้นตอนจากนี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะส่งรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติฯกับหน่วยงานภาครัฐต่อไป

ทั้งนี้แหล่งข่าวแกนนำระดับบิ๊ก อนาคตไกล เปิดเผยว่า พรรคอนาคตไกล เป็นพรรคการเมืองของประชาชนทุกภาคส่วน ส่วนใครจะมานั่งหัวหน้าพรรค ขออุบรายละเอียดไว้ก่อน ยังเปิดเผยไม่ได้ ขอให้พี่น้องประชาชนคอยติดตาม อย่าเพิ่งไปคาดเดาต่างๆ นานา ขอให้ทุกพรรคการเมืองแข่งขันกันที่นโยบาย ส่วนนโยบายพรรคจะเปิดเผยเมื่อได้เลือกตั้ง กก.บห.ชุดแรกแล้ว ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอื่นใด และไม่เป็นนอมินีของใคร

เมื่อถามว่า ชื่อ พรรคอนาคตไกล มาจากอดีต พรรคอนาคตใหม่ + พรรคก้าวไกล หรือไม่ แกนนำคนดังกล่าว ระบุว่า

ขอไม่ตอบคำถามนี้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกัน และไม่เป็นพรรคสำรองของใคร กฎหมายพรรคการเมืองห้ามครอบงำ การตั้งชื่อพรรคการเมือง สามารถตั้งชื่ออะไรก็ได้ ตราบใดไม่ขัดต่อกฎหมายพรรคการเมือง โดยกฎหมายพรรคการเมืองห้ามชื่อ และโลโก้ซ้ำ หรือพ้องหรือคล้ายคลึงกับพรรคการเมืองอื่นใด พรรคการเมืองในประเทศไทยมีเพียงสองพรรคนี้หรือไม่

ส่วนโลโก้พรรคเป็นรูป อินฟินีตี้สีส้ม+สีแดง หมายถึง อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ชื่อพรรคและโลโก้พรรค ประชาชนจดจำง่าย อนาคตอาจเปลี่ยนเป็นสีส้มทั้งหมดก็ได้ ในเมื่อกฎหมายไม่ได้ห้าม สามารถกระทำได้ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง

ยืนยันว่า เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข