‘พิธา’ รอความชัดเจน ‘เพื่อไทย’ ดึง ‘2ลุง’ ร่วมรัฐบาล จริงหรือไม่?
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ‘พิธา’ รอความชัดเจน ‘เพื่อไทย’ ดึง ‘2ลุง’ ร่วมรัฐบาล จริงหรือไม่?
‘พิธา' รอความชัดเจน ‘เพื่อไทย' ดึง ‘รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ' ร่วมรัฐบาล รับเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ก็รอดูอย่างรอบคอบ บอก ‘ก้าวไกล' ต้องยึดสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน จุดยืนยังเหมือนเดิม ถ้ามีลุงไม่มีเรา
วันที่ 13 ส.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกับทีมงานพรรคถึงกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วม โดยนายพิธากล่าวว่า ก็คงมีคำว่า ‘อาจจะ' อยู่ เพราะว่ายังรอฟังความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลมีการประชุมสส.ทุกวันอังคาร
นายพิธากล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ หากมีความชัดเจนว่า ดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เราก็จะมีเนื้อหาชัดเจนในการประชุม เพื่อที่จะตัดสินใจทิศทางในการโหวตของเราเป็นอย่างไร แต่ที่ผ่านมา ได้รับฟังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มาโดยตรง ก็มีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ยังไม่แน่นอน จะต้องรอความชัดเจน เพื่อขอมติของพรรค และจะมีอะไรออกมาเป็นขั้นตอนต่อไป
นายพิธา ระบุว่า ตนได้ประกาศจุดยืนตั้งแต่เวทีดีเบตแล้วว่า ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง จุดยืนของพรรคก้าวไกลยังเหมือนเดิม ถ้ามีลุงไม่มีเรา เหมือนเดิม
เมื่อถามว่า มองการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ โดยการโหวตให้ก่อนแล้วคีอยมาร่วมรัฐบาลอย่างไร
นายพิธา ระบุว่า ต้องถามพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาลอยู่ แต่เราเห็นความไม่ชอบมาพากล ซึ่งก็ยังไม่มีความชัดเจน ขอรอสถานการณ์ให้นิ่ง และเราจะตัดสินใจอย่างรอบคอบแน่นอน และจะยึดตามสัจจะที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลมีความเป็นเอกภาพ ส่วนใหญ่จะทำตามมติของพรรค น้อยครั้งมากที่จะเปิดให้ฟรีโหวต ซึ่งพรรคนี้หัวหน้าพรรคไม่ใช่ทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติพรรค
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเสนอชื่อนายพิธา แข่งกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในรอบนี้
นายพิธา กล่าวว่ายังไม่เห็นความชัดเจน ต้องรอดูว่าตกลงลักษณะของการนำเสนอเป็นอย่างไร จะมานั่งคิดว่าการโหวตเป็นอย่างไร และคิดว่าจะต้องเสนอชื่อแข่งหรือไม่ ซึ่งเมื่อยังไม่เห็นความชัดเจน สิ่งที่หัวหน้าพรรคหรือผู้นำจะทำได้ก็คือ การรอความชัดเจน นิ่งเป็น ค่อยๆดูสถานการณ์ที่ออกมา
นายพิธา กล่าวอีกว่า การให้ สส. 150 คนออกไปรับฟังประชาชน ไม่ใช่แค่ในโซเชียลมีเดียแน่นอน เราไม่ใช่พรรคที่อยู่แค่โลกโซเชียลมีเดีย หรือโลกของคนรุ่นใหม่ เราลงพื้นที่ไปกินกาแฟในสภากาแฟ เดินเข้าหมู่บ้าน รับฟังปัญหาจากประชาชน และรับฟังอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่ทำโพลทางโซเชียลอย่างที่มีการกล่าวหา
วันที่ 13 ส.ค.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกับทีมงานพรรคถึงกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยจะดึงพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วม โดยนายพิธากล่าวว่า ก็คงมีคำว่า ‘อาจจะ' อยู่ เพราะว่ายังรอฟังความชัดเจนจากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลมีการประชุมสส.ทุกวันอังคาร
นายพิธากล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันนี้ หากมีความชัดเจนว่า ดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เราก็จะมีเนื้อหาชัดเจนในการประชุม เพื่อที่จะตัดสินใจทิศทางในการโหวตของเราเป็นอย่างไร แต่ที่ผ่านมา ได้รับฟังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มาโดยตรง ก็มีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้ยังไม่แน่นอน จะต้องรอความชัดเจน เพื่อขอมติของพรรค และจะมีอะไรออกมาเป็นขั้นตอนต่อไป
นายพิธา ระบุว่า ตนได้ประกาศจุดยืนตั้งแต่เวทีดีเบตแล้วว่า ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง จุดยืนของพรรคก้าวไกลยังเหมือนเดิม ถ้ามีลุงไม่มีเรา เหมือนเดิม
เมื่อถามว่า มองการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ โดยการโหวตให้ก่อนแล้วคีอยมาร่วมรัฐบาลอย่างไร
นายพิธา ระบุว่า ต้องถามพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำที่จัดตั้งรัฐบาลอยู่ แต่เราเห็นความไม่ชอบมาพากล ซึ่งก็ยังไม่มีความชัดเจน ขอรอสถานการณ์ให้นิ่ง และเราจะตัดสินใจอย่างรอบคอบแน่นอน และจะยึดตามสัจจะที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้พรรคก้าวไกลมีความเป็นเอกภาพ ส่วนใหญ่จะทำตามมติของพรรค น้อยครั้งมากที่จะเปิดให้ฟรีโหวต ซึ่งพรรคนี้หัวหน้าพรรคไม่ใช่ทุกอย่าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมติพรรค
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเสนอชื่อนายพิธา แข่งกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในรอบนี้
นายพิธา กล่าวว่ายังไม่เห็นความชัดเจน ต้องรอดูว่าตกลงลักษณะของการนำเสนอเป็นอย่างไร จะมานั่งคิดว่าการโหวตเป็นอย่างไร และคิดว่าจะต้องเสนอชื่อแข่งหรือไม่ ซึ่งเมื่อยังไม่เห็นความชัดเจน สิ่งที่หัวหน้าพรรคหรือผู้นำจะทำได้ก็คือ การรอความชัดเจน นิ่งเป็น ค่อยๆดูสถานการณ์ที่ออกมา
นายพิธา กล่าวอีกว่า การให้ สส. 150 คนออกไปรับฟังประชาชน ไม่ใช่แค่ในโซเชียลมีเดียแน่นอน เราไม่ใช่พรรคที่อยู่แค่โลกโซเชียลมีเดีย หรือโลกของคนรุ่นใหม่ เราลงพื้นที่ไปกินกาแฟในสภากาแฟ เดินเข้าหมู่บ้าน รับฟังปัญหาจากประชาชน และรับฟังอย่างรอบด้าน ไม่ใช่แค่ทำโพลทางโซเชียลอย่างที่มีการกล่าวหา
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!