ก้าวไกลเปิด 3 ข้อสำคัญ ยืนยันไม่เคยขอให้ถอย112 พร้อมทำทุกหน้าที่
1.พรรคก้าวไกลต้องขอโทษประชาชนทุกคนที่เราไม่สามารถผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลที่เคารพเจตจำนงของประชาชนผ่านการเมืองได้ตั้งสำเร็จ ดังที่พรรคเพื่อไทยแถลงไปแล้วว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยจะแยกจากก้าวไกลไปจัดตั้งรัฐบาล
ในการพูดคุยเมื่อเช้านี้ พรรคเพื่อไทยได้แจ้งก้าวไกลว่าต้องการขอออกจากเอ็มโอยูที่เราทำร่วมกันทั้ง 2 ฉบับคือ เอ็มโอยู 8 พรรค กับเอ็มโอยูที่พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลทำร่วมกันในตอนที่พูดคุยเรื่องการเลือกประธานสภา
2.ในการพูดคุยกัน พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีการขอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาถอยเรื่องการเสนอมาตรา 112 และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีการเจรจาในเรื่องนี้ โดยเพื่อไทยให้เหตุผลว่า พรรคที่เพื่อไทยไปพูดคุยที่ผ่านมา ไม่ต้องการให้ก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาลไม่ว่าจะมีเรื่อง 112 หรือไม่ก็ตาม
3.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ขอให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทย ในวันที่ 4 ส.ค. เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค และในการพูดคุยกันเมื่อเช้านี้ แกนนำเพื่อไทยบางคนแสดงความกังวลใจ ว่าหากก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตจากเพื่อไทย อาจทำให้สว.ไม่พอใจพรรคเพื่อไทย เพราะเกรงว่าเมื่อเลือกนายกฯเสร็จแล้ว เพื่อไทยจะดึงก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลอีก
นายชัยธวัช กล่าวว่า สุดท้ายก้าวไกลอยากเรียนประชาชนว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ในฐานะ สส.อย่างเต็มที่ อย่างดีที่สุด ตามที่เราได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในการเลือกตั้ง เพื่อผลักดันคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกคน เพื่อผลักดันให้เกิดระบบเศรษฐกิจของประเทศที่เท่าทันโลก และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตอย่างเสมอภาค
เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ สร้างรัฐที่โปร่งใสเป็นธรรม เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน และจะทำงานเต็มที่ไม่ว่าอยู่สถานะไหน เพื่อจะสร้างระบบการเมืองของบ้านเราเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นระบบที่เสียงและอำนาจของประชาชนมีความหมายได้อย่างแท้จริง
ส่วนเรื่องการโหวตนายกฯ เราประชุม สส.เปิดให้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ วันที่ 3 ส.ค.จะสรุปเป็นมติของพรรคอีกครั้ง
เมื่อถามว่าจากนี้การทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ เพราะเพื่อไทยระบุจะผลักดันร่างกฎหมายของก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า เอ็มโอยูไม่มีอีกแล้วทั้ง 8 พรรคและเอ็มโอยูเพื่อไทย-ก้าวไกล ซึ่งเคยตกลงกันว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิรูปกองทัพและนิรโทษกรรมทางการเมือง แต่ในฐานะสส.เราสามารถเสนอกฎหมายและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และหวังว่าแม้เราจะไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกันแต่หวังวาฝ่ายรัฐบาลจะเห็นชอบด้วย
ทั้งนี้ ไม่ว่าก้าวไกลจะอยู่ในฐานะไหนเราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ผลักดันนโยบายของเราผ่านนิติบัญญัติ ถ้าเราจะเป็นฝ่ายค้านจริงๆ เราผลักดันหลายๆ อย่างไร สมัยที่แล้วแม้ร่างกฎหมายจะไม่ผ่านสภาเลย แต่คิดว่าสมัยนี้จะมีหลายฉบับผ่าน
เมื่อถามถึงเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากเอ็มโอยู เป็นผลจากจากคุยกับภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าเหตุผลที่แท้จริงอย่างที่เราเคยชี้แจงแล้วว่าเรื่อง 112 เป็นเพียงข้ออ้าง ฝ่ายการเมืองจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าไม่ต้องการเห็นก้าวไกลเป็นรัฐบาล และหลายพรรคที่เคยแถลงร่วมกับเพื่อไทยก็พูดชัดว่าไม่ต้องการทำงานร่วมกับก้าวไกล และอุดมการณ์การทำงาการเมืองไม่ตรงกับก้าวไกล
เข้าใจว่าวันนี้แกนนำเพื่อไทยได้แจ้งผลการพูดคุยไปแล้วรายพรรค แต่ไม่ทราบว่าแต่ละพรรคมีท่าทีอย่างไรบ้าง
"สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย เราเคยพูดแล้วว่าปัญหาการเมืองไทยจริงๆ แล้ว อำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชน ซึ่งถือเป็นภารกิจของพวกเราจะผลักดันเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มความสามารถ ที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุด" นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรค 2 ลุง นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับก้าวไกลแล้ว เป็นเรื่องของเพื่อไทย
เมื่อถามว่าถือเป็นการจากกันด้วยดีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การพูดคุยเมื่อเช้า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน เชื่อว่าทุกคนเข้าใจสถานการณ์ แต่คิดว่าถ้า 8 พรรคจับมือกันแน่นก็ไม่เกิดข้ามขั้ว แต่เมื่อเพื่อไทยตัดสินใจออกจากเอ็มโอยู การจัดตั้งรัฐบาลก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง
ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ ตั้งสสร. เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วมีเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง คิดว่าเมื่อตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว เสนอทำประชามติตั้งสสร. จะเป็นวาระแรกของรัฐบาลใหม่