มีอะไรบ้าง? ไทยสร้างไทยย้ำ 5 จุดยืนจัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้ประเทศไปต่อ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มีการประชุมคณะผู้บริหารพรรค นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรค นายอุดมเดช รัตนเสถียร รองหัวหน้าพรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค ร่วมหารือถึงจุดยืนและทิศทางการเมืองของพรรค ทสท.ต่อการจัดตั้งรัฐบาล
น.อ.อนุดิษฐ์แถลงผลการประชุมว่า พรรค ทสท.ประกาศ 5 จุดยืนทางการเมืองต่อการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
1.พรรค ทสท.ยืนยันเคารพเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต้องการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยตามข้อตกลงร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน และสนับสนุนให้มีการเดินหน้าตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชนให้สำเร็จ เพื่อนำประเทศสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
2.พรรค ทสท.ขอขอบคุณและชื่นชมความเสียสละของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แม้ระหว่างทางจะมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่ขอให้กำลังใจให้เดินหน้าต่อไปเพื่อประเทศชาติและประชาชน
3.ขอให้แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมได้หาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรในการหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมจาก ส.ว.และ ส.ส. ขอให้นำมาพูดคุยกันด้วยความจริงใจและความเสียสละเพื่อประชาชน และถอยกันคนละก้าวเพื่อที่จะนำไปสู่ทางออกของประเทศ
4.พรรค ทสท.มีจุดยืนมั่นคงในการรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพรรค ทสท.ขอสนับสนุนการสร้างประชาธิปไตยถาวร ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจอย่างเด็ดขาด และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่เห็นว่ารากเหง้าปัญหาของประเทศเกิดจากรัฐธรรมนูญปี 2560 พรรค ทสท.จึงได้เสนอให้คืนอำนาจให้กับประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญตามร่างที่พรรค ทสท.ได้เสนอเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว เพื่อตัดวงจรการสืบทอดอำนาจทั้ง ส.ว.และแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชนสำเร็จลุล่วงได้จริง
5.ยอมรับว่าขณะนี้บ้านเมืองต้องการรัฐบาลและปัญหาของประชาชนรอไม่ได้ แต่ถ้าหากสามารถตั้งรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยได้ตามที่ประชาชนคาดหวังก็จะดีที่สุด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง โดยระหว่างนี้ให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณาและประสานงานกับคณะรัฐบาลรักษาการ และหน่วยงานราชการเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนไปพลางก่อน