จากปาก พิธา ตอบชัดยังมั่นใจเชื่อใจเพื่อไทย เหมือนเดิมไหม?
เมื่อถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรที่มีความพยายามให้พรรคก้าวไกลเสียสละใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายพิธากล่าวว่า ตอนนี้คุณค่าที่สำคัญคือสัจจะ ไม่ใช่เสียสละ สัจจะที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ตามที่เขาคาดหวัง หากเรารักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชนก็จะไม่มีใครต้องเสียสละ เพราะเป็นไปตามกฎกติกาที่มีอยู่ มาตามครรลองของการเมืองปกติ แต่ถ้าบอกให้เสียสละเหมือนเอาคะแนน 44 ล้านเสียงไปเทกระจาด และทำให้ประชาชนผิดหวัง ถึงตอนนั้นต้องยึดสัจจะและหลักการณ์ให้มั่น มากกว่ามาบอกว่าให้ใครเสียสละ
เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้เชิญพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มาพูดคุยถือว่าเป็นการทำตาม มติของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอทางพรรคเพื่อไทยกลับมาพูดคุย กับวง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่างเป็นทางการ
เมื่อวาน(22 ก.ค.) ตนก็ลงพื้นที่จึงยังไม่ได้ตามข่าว แต่ที่ได้ฟังก็เป็นการเชิญและแต่ละพรรค ก็มีความคิดเห็นของแต่ละพรรค ตอนนี้ตนรอแค่พรรคเพื่อไทย เข้ามาชี้แจงในวง 8พรรคร่วมรัฐบาล อย่างเดียวเราไม่สามารถตัดสินใจอะไรกันผ่านข่าวได้
เมื่อถามว่า การไปพูดคุยกับพรรคทหารจำแลง จะเป็นเงื่อนไข ที่ผลักพรรคก้าวไกล ออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ยังเป็นแค่การพูดคุย แต่ถ้ามีการเชิญเข้าร่วมรัฐบาลจริง พรรคก้าวไกลอยู่ร่วมไม่ได้ในสมการนั้น
"ก้าวไกลไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลได้ ถ้ามีการเชิญจริงๆ แต่ ณ ปัจจุบันนี้พูดให้ชัด ผมเข้าใจว่าเป็นการเชิญมาพูดคุย ยังไม่มีการเชิญร่วมรัฐบาล ในส่วนนี้ต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทยก่อน ว่าตกลงแล้วเป็นยังไงกันแน่ และผมก็จะฟังจากปากของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตัดสินใจตามหน้าข่าว หรือการฟังสัมภาษณ์เพียงสั้นๆ แต่ต้องฟังเหตุและผลยาวๆ" นายพิธากล่าว
เมื่อถามว่าหาก 8 พรรค ร่วมจัดตั้งรัฐบาลขอให้ถอยในเรื่องมาตรา 112 จะถอยได้มากแค่ไหน นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ไปประชุมแทน มีการหารือว่า ถ้าจะให้ถอยจะให้ถอยเรื่องอะไร ถอยด้วยเนื้อหาอะไร และ และความเป็นรูปธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล ของประชาชนซึ่งเป็นการยุติ การสืบทอดอำนาจเป็นไปได้จริงหรือไม่
เมื่อถามว่ารู้สึกถูกบีบหรือไม่ เนื่องจากพรรคที่เข้ามาคุยกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพรรคก้าวไกลเป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร อย่างที่บอกถ้า8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจับมือกันให้แน่น ใครๆก็มาบีบเราไม่ได้ ขณะเดียวกันถ้าเราหนักแน่น และยังยืนยันในหลักการก็จะสามารถทำให้คนค่อยๆเข้ามาร่วมกับเราได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องให้เขามาบีบเรา
แต่ให้เราสามารถที่จะใช้เหตุผล หลักการ และความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ที่จะสามารถดึงพวกเขาเข้ามา อย่าให้เขามาดันเรา เราต้องดึงเขาและจัดตั้งรัฐบาลที่ควรเป็นไปได้จริง ตอนนี้ยังเชื่อใจพรรคเพื่อไทย ว่าคงจะพยายามอย่างเต็มที่ ใช้ทุกวิถีทาง ที่จะรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน และทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้
เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นการเดินเกมผิดหรือไม่ที่ทำให้พรรคก้าวไกลเสียเก้าอี้ประธานรัฐสภา และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จนตอนนี้ถูกบีบให้เป็นฝ่ายค้าน นายพิธากล่าวว่า "ไม่ผิดหรอกครับ" ตั้งใจที่จะทำงานแบบลุกได้ถอยเป็น เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แน่นอนว่ามีบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ไม่ได้เกินคาด เพราะฉะนั้นยังเดินหน้าทำงานต่อ