ก้าวไกล แถลงเปิดทางให้เพื่อไทย พร้อมขอโทษปชช. 14 ล้านคน
ทั้งนี้เป้าหมายชัดเจนในฐานะอันดับ 1 คือการตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ แต่ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาชี้ชัดแล้วว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ยอมให้ พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีการใช้ มาตรา 112 บังหน้า รวมถึงองค์กรอิสระที่หวังตัดสิทธิ์แกนนำพรรค และ สว.ที่ฝืนมติมหาชน ทำลายหลักการ ตีความข้อบังคับรัฐสภาให้ขัดรัฐธรรมนูญล้ม นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนานกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล จึงถือเป็นการล้มล้างการปกครอง เพียงเพื่อสกัดนาย พิธา ดังนั้นพรรคก้าวไกลจึงไม่ยอมรับการตีความดังกล่าว
พรรคก้าวไกลจึงเปิดโอกาสให้พรรคอับดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยครั้งต่อไปในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค. พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตของ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เช่นเดียวกับที่ พรรคเพื่อไทยเคยเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก พรรคก้าวไกลครั้งที่ผ่านมา ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนในนั้น ต้องขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะเสนอใคร
นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า ทั้งนี้การดำเนินการตั้งรัฐบาลดังกล่าวยังคงยึด MOU เดิมชอง 8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่เคยตกลงกันไว้
เมื่อถามว่า ได้คำนึงถึงฉากทัศน์ที่แย่ที่สุดคือ พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น เพราะประเด็นสำคัญที่สุดตอนนี้ไม่ใช่นาย พิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่จะต้องจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชนให้ได้ เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจ และหากย้อนกลับไป พรรคก้าวไกลก็จะตัดสินใจเหมือนเดิม และไม่ยอมรับกติกาที่พยายามออกแบบ เพื่อสืบทอดอำนาจหลังการรัฐประหาร