สภาวุ่น โหวตนายกฯรอบ2 มีชื่อพิธาคนเดียว งัดข้อบังคับ41ถกกันเดือด
ทำให้นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วง ว่าการที่สมาชิกรัฐสภาเสนอนายพิธา เป็นนายกฯ นั้นรัฐสภากำลังทำผิดข้อบังคับข้อที่ 41 ที่บัญญัตติว่าญัตติใดที่ตกไปแล้ว ห้ามนำเสนอซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกัน ขึ้นมาเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ยังไม่ได้ลงมติ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ได้มีการลงมตินี้ไปแล้ว โดยนายพิธาได้เสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา และข้อบังคับของรัฐสภามีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ดังนั้นสมาชิกรัฐสภาจะต้องยึดถือปฏิบัติ
นายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยว่า ไม่ผิดข้อบังคับ ถือว่ายังอยู่ในข้อบังคับอยู่ เพราะยังไม่มีการโหวต เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นแล้วได้อย่างเต็มที่ แล้วให้นายอัครเดช อภิปรายต่อ โดยนายอัครเดช อภิปรายว่า ตนไม่ได้ลุกขึ้นมาอภิปราย ว่านายพิธาเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯหรือไม่ แต่ตนกำลังอภิปรายว่า ถ้ารัฐสภา มีการอภิปรายญัตตินี้เป็นการกระทำที่ขัดกับข้อบังคับ ซึ่งมีสถานะเป็นกฎหมาย
ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประท้วงกระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่ ว่าขัดกับข้อบังคับการประชุมข้อที่ 36 เพราะนายสุทิน ได้เสนอบุคคลเป็นนายกฯ แล้ว ดังนั้นอยู่ในขั้นตอนของรัฐสภาที่จะให้การรับรองโดยเสียบบัตรแสดงตนอย่างเปิดเผย แต่นายอัครเดช ลุกขึ้นมาเร็วไป เพราะกระบวนการยังไม่ครบถ้วน ดังนั้นขอให้ประธานรัฐสภา ได้ดำเนิการรับรองญัตตินี้ให้เรียบร้อย แล้วจึงเดิหนน้าถกเถียงว่าเข้าข้อบังคับที่ 41 หรือไม่ จึงขอให้ดำเนินการให้ถูกขั้นตอน
ทั้งนี้ นายอัครเดช ยืนยันว่าการเสนอชื่อนายพิธาให้โหวตรอบ2นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะจะขัดกับข้อบังคับข้อ41 ทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลและมีทีท่าว่าจะทำให้บรรยากาศในที่ประชุมวุ่นวาย ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า การประชุมวิป3 ฝ่าย นั้นมีข้อตกลงร่วมกันว่า หลังจากการเสนอญัตติบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกฯแล้วต้องให้เสนอญัตติเพื่อถกเถียง ซึ่งจะให้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
นายรังสิมันต์ ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า วานนี้(18 ก.ค.) ตนอยู่ในการประชุมวิปด้วย ซึ่งไม่มีข้อสรุปดังกล่าว ดังนั้นตนขอให้ประธานรัฐสภาวางตัวเป็นกลาง อีกทั้งในกระบวนการเลือกนายกฯ นั้นต้องยึดการทำงานในสภาฯ ต้องยึดระเบียบข้อบังคับ
ทั้งนี้นายรังสิมันต์ ลุกใช้สิทธิ์พาดพิง ยืนยันว่าผลการหารือ3ฝ่าย ยอมรับว่ามีข้อเสนอจริง แต่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย ดังนั้นต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ ตามมาตรา 272 เพื่อให้เป็นไปตามวาระ ซึ่งกรณีที่หารือนั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอกวาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นบรรยากาศของการประชุม สมาชิกฯได้ลุกอภิปรายโต้แย้งในประเด็นดังกล่าวอย่างเข้มข้น โดยส.ว. สนับสนุนต่อการอภิปรายข้อหารือในประเด็นญัตติที่ตกไปตามข้อบังคับข้อ41 ต่อไปเพราะการหารือของวิป นั้นหากข้อเสนอใดที่ไม่มีใครโต้แย้งถือว่าไดด้รับการยอมรับ และย้ำว่าญัตติเสนอชื่อพิธานั้นต้องตกไปตามข้อบังคับ แต่ยังถูกส.ส.พรรคก้าวไกล โต้แย้งเป็นระยะๆ