เปิดคำสั่งศาลแพ่ง ตั้ง “พิธา” เป็นผู้จัดการมรดก หุ้น ITV


เปิดคำสั่งศาลแพ่ง ตั้ง “พิธา” เป็นผู้จัดการมรดก หุ้น ITV


จากกรณีการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการมรดก ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จนกลายเป็นประเด็นกล่าวหาว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่

โดยก่อนหน้านี้นายพิธา ชี้แจงหลายครั้งว่าถือครองหุ้นดังกล่าวในฐานะผู้จัดการมรดก และมีการแจ้งข้อมูลต่อ ป.ป.ช. ไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายนิวัฒน์ไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่ยืนยันว่ามีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมพร้อมแนบคำสั่งศาล

โดยล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้เปิดเอกสารประกอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา ในช่วงเข้ารับตำแหน่งเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2562 เกี่ยวกับข้อมูลคำสั่งศาลการเป็นผู้จัดการมรดก และการถือครองหุ้น ไอทีวี

ซึ่งพบว่า เอกสารดังกล่าวเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เพิ่มเติมสองครั้ง ในวันที่ 4 ต.ค. 2562 โดยนายพิธา ได้ให้เหตุผลในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติมว่าเพราะต้องตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากทรัพย์สินบางส่วนได้รับจากการเป็นผู้จัดการมรดกจึงเพิ่งได้รับทราบข้อมูล และต้องตรวจสอบข้อมูล เพราะไม่ได้บริหารกิจการมา 3 ปี จึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเอกชนได้ จึงทำให้ล่าช้าอีกทั้งเอกสารบางส่วนสูญหายต้องทำเรื่องขอจากสถาบันการเงิน ต้องใช้เวลาค้นหาและตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง

ทั้งนี้สำหรับในส่วนของเอกสารเกี่ยวกับเงินลงทุน ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เพิ่มเติมนั้น มีการระบุไว้ 3 รายการ ประกอบไปด้วย 1.บริษัท ไทยโรจน์ จำกัด จำนวนหุ้น 121 หุ้น มูลค่ารวมตามตราสาร 30,250 บาท 2.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 42,000 หุ้น มูลค่าตามตราสาร 44,100 บาท และ3.บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 830 หุ้น ตามตราสาร 4,150 บาท

โดยหุ้นทั้งสามรายการระบุว่าได้หุ้นมาเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2556 ซึ่งนายพิธา ได้ระบุในหมายเหตุว่า ใน ลำดับที่ 1-3 การถือครองหุ้นดังกล่าว เป็นการถือครองแทนทายาทในฐานะผู้จัดการมรดกของบิดา

พร้อมกันนั้นยังได้แนบคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ประกอบด้วย โดยมีเนื้อหาว่า ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ลงวันที่ 16 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2550 ความแพ่ง ระหว่าง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ร้อง เรื่องขอตั้งผู้จัดการมรดกผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ตาย การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

ศาลประกาศนัดไต่สวนตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ทางไต่สวนผู้ร้องนำสืบฟังได้ว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ตามเอกสาร ร.1 ทายาททั้งหมดปรากฏตามบัญชีเครือญาติ ร.5 ผู้ตายถึงแก่คววามตายเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549 ตามเอกสาร ร.3 ก่อนตายผู้ตายมีทรัพย์มรดกปรากฏตามบัญชีทรัพย์ ร.6 ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้

การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ไม่สามารถแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทได้ จึงมาร้องขอเป็นคดีนี้ โดยทายาทคนอื่นให้ความยินยอมแล้ว ตามเอกสาร ร.7 ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ บุคคลวิกลจริต และบุคคลล้มละลาย

พิเคราะห์แล้วเห็นว่าผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์มรดกของผู้ตาย และผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมหรือตั้งผู้จัดการมรดกไว้ การจัดการมรดกมีเหตุขัดข้อง ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ทั้งได้รับความยินยอมจากทายาทอื่นให้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว

เห็นสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย จึงมีคำสั่งตั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้จัดการมรดกของนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ลงวันที่ 16 มีนาคม 2550

นอกจากนั้นยังมีเอกสารการถิอครองหุ้นไอทีวีที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. โดยเป็นหนังสือรับรองจากบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งระบุว่า บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิปฯ ขอรับรองว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับทางบริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2546 โดยมีทรัพย์สินและหลักทรัพย์ฝากไว้กับทางบริษัทฯ คงเหลือ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ดังต่อไปนี้ 1.บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 42,000 หุ้น ราคาตลาด 1.05 บาท มูลค่าตามราคาตลาด 44,100 บาท


โดยหนังสือรับรองฉบับนี้ ออกให้ ณ วันที่ 25 กันยายน 2562


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์