ส.ว.บุญส่ง ยังไม่ตัดสินใจโหวต พิธา ลั่นถ้าไม่ยอมถอยผ่านส.ว.ลำบาก
นายบุญส่ง ไข่เกษ ส.ว. สายคัดสรร กล่าวถึงการตัดสินใจเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ได้ตัดสินใจและยังเฝ้ามองความพร้อมของนายพิธา ทั้งกรณีการถูกยื่นคำร้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติหลังพบว่าถือครองหุ้นสื่อฯ ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัย
"ถ้าศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าขาดคุณสมบัติเป็นส.ส.ไม่ได้ แล้วเราเลือกไปก็เท่านั้น จะเห็นดีเห็นงามอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นต้องให้นายพิธาผ่านเงื่อนไขก่อน เพราะผมเคยเป็นส.ส.มาและเป็นส.ว.เลือกตั้ง เรื่องคุณสมบัติเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณสมบัติไม่ได้ ก็จบแค่นั้น" นายบุญส่ง กล่าว
นายบุญส่ง กล่าวด้วยว่าสำหรับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น ตนมีมุมมองไม่เหมือนกัน เพราะตนเป็นคนเกิดจ.ตราด ผูกพันกับพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ จ.ตราดรอดจากการยึดครองฝรั่งเศสได้ ไม่เป็นของกัมพูชา ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ช่วยป่านนี้ตนเป็นคนกัมพูชาแล้ว และจ.ตราดตกเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสไปแล้ว อย่างไรก็ตามดูแล้วการเลือกนายกฯครั้งนี้ไมได้อยู่บนเงื่อนไขเดียว แต่มีหลายเงื่อนไข ตนก็ต้องพิจารณาในรอบครอบ
เมื่อถามถึงการประเมินต่อเสียงส.ว.ที่จะลงมติเลือก หากไม่มีการแก้มาตรา 112 นายบุญส่ง กล่าวว่า "ถ้าไม่ยอมถอยคงผ่านส.ว.ลำบาก เพราะตอนนี้เขากำลังดูอยู่ ถ้ามีปัจจัยอื่นมาประกอบด้วย โดยเฉพาะกรณีคุณสมบัติ หากคุณสมบัติไม่ผ่าน ส.ว.โหวตแล้ว อาจโดนกล่าวหาว่าไม่ดูให้รอบครอบ ไปเลือกคนที่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงต้องดูหลายปัจจัยประกอบกัน"