สู้ไม่ถอย! รังสิมันต์ โรม เผยอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ คอมเมนต์สนั่นเเห่ส่งกำลังใจ

วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงประเด็นการหารือของกรรมการบริหารพรรค ก.ก. (กก.บห.) เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ตามที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงไปเบื้องต้น พรรคก้าวไกลเน้นคุยกับพรรคเพื่อไทยเป็นหลักก่อน โดยมีการนำนโยบายมาพูดคุยกัน รวมถึงแนวทางที่จะเดินต่อ
.
นอกจากนี้ นายพิธา ยังจะประสานพูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ ตามที่เคยแถลงข่าวไป เพื่อเชื้อเชิญมาร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย ประชาชาติ และพรรคเป็นธรรม โดยจะเน้นพูดคุยกับพรรคฝ่ายค้านเดิมที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ส่วนใช้เวลาวางนานเท่าไรนั้น คาดว่าน่าจะอีกประมาณ 2-3 วัน คงจะเริ่มมีเค้าโครงมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดเวลาที่ชัดเจนได้
.
ส่วนเรื่องว่าจะรวมได้ 376 เสียงหรือไม่ อาจจะยังไม่เป็นประเด็น เพราะพรรคก้าวไกลเชื่อว่าเสียงเท่านี้น่าจะพอ ที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อได้
.
นาย รังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องแยกกันระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล กับ การปิดสวิตซ์มาตรา 272 เนื่องจากมาตราดังกล่าวสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ผ่านการเลือกของ ส.ว. ดังนั้น หากเราแก้มาตรา 272 สำเร็จ วันนี้การเลือกนายกฯ ก็คงใช้ มาตรา 251 คือใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ
.
"สมมติพรรคอื่นจะมาบอกว่า พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เดี๋ยวกูจัดตั้งเอง คุณก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก พล.อ.ประยุทธ์ หรือ เผด็จการ แบบนี้จะส่งผลสองอย่างคือ 1.มันเป็นการแทงสวนประชาชนจากมติมหาชนที่ให้พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง และ 2.มันเป็นการทำให้ตัวเองมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย แบบนี้ต้องบอกว่ามันเป็นการทำลายวัฒนธรรมทางประชาธิปไตย เพราะการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลไม่ได้นั้น มันไม่ใช่ เพราะประชาชนไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกลเพียงพอ แต่เป็นเพราะว่าซากเดนเผด็จการของ คสช. มันยังอยู่"