ศาลสั่งจำคุกม็อบ กปปส. ขัดขวางเลือกตั้งปี56 ไม่รอการลงโทษ
พวกจำเลยได้ประกันตัว
ศาลพิเคราะห์ เเล้วการกระทำของ จำเลยทั้ง 13 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215วรรสอง, 216,365(1) (2) ประกอบมาตรา 362, 364พรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550มาตรา 43 วรรคสอง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
การกระทำของ จำเลยทั้ง 13 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานร่วมกัน บุกรุกอสังหาริมทรัพย์และเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก คนละ 2 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน
จำเลยที่ 1-9 และที่ 11-13 ให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษ ให้หนึ่งในสี่ จำเลยที่ 10 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก จำเลยที่ 1ที่ 3-9 และที่ 11-13 คนละ 18 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 24 เดือน จำคุกจำเลยที่ 10 มีกำหนด 16 เดือน
พิเคราะห์พฤติการณ์ แห่งคดีแล้ว เห็นว่า เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มก่อเหตุรุนแรงโดยใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อต ลูกแก้ว ลูกเหล็ก และขว้างปาก้อนอิฐ ก้อนซีเมนต์ตัวหนอน ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง เป็นต้น ใส่เจ้าพนักงานตำรวจที่รักษาความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุ จำเลยทั้ง 13 ก็ควรเลิก ชุมนุมตามที่เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งให้เลิก แต่จำเลยทั้ง13กลับไม่เลิกชุมนุมแล้วยัง บุกรุกเข้ามาในที่เกิดเหตุอีก
พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สมควรรอการลงโทษ ให้แก่จำเลยทั้ง 13 คน ริบของกลางทั้งหมดตามบัญชีท้ายฟ้อง บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 4 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 13530/2555จำนวน 3 เดือน และในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ คงที่ 13531/2555จำนวน 3 เดือน ของศาลแขวงธนบุรี เข้ากับ คดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 4มีกำหนด 24 เดือน บวกโทษจำคุกจำเลยที่ 5 ที่รอการลงโทษ ไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 336/2555จำนวน 1 เดือนของศาลแขวงพระโขนง เข้ากับคดีนี้เป็นจำคุกจำเลยที่ 5มีกำหนด 19 เดือน นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ ต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา