ประชุมใหญ่ประมุข 3 ศาล มีแนวโน้มล้มกระดานเลือกตั้ง!
นายชัช ชลวร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมโดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2549 16:28 น.
การนัดประชุมใหญ่ของประมุข 3 ศาล ยุติธรรม-ปกครอง-รัฐธรรมนูญ สนองพระราชดำรัสหาทางออกแก้วิกฤตชาติ 28 เม.ย.นี้ เปิดช่องให้ประชาชนใช้สิทธิทางศาลเต็มที่ แย้มอาจเสนอ กกต.ล้มกระดานเลือกตั้งใหม่หมด
วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ห้องประชุมสำนักงานศาลยุติธรรม นายชัช ชลวร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้พิพากษาประจำสำนักประธานศาลฎีกา ร่วมกันแถลงข่าวการจัดประชุมร่วมศาลฎีกา ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตีความกฎหมายแก้ไขวิกฤตการเมืองตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายชัช กล่าวว่า ศาลยุติธรรมน้อมรับกระแสพระราชดำรัสในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งเป็นวิกฤตที่มีมานาน 2 เดือนเศษ ที่เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.2549 และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่ปัญหาจะคลี่คลายไปในทางที่จะเกิดความสงบได้ โดยศาลฎีกาจะเป็นแกนนำหารือกับศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะวิเคราะห์การแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยการใช้กฎหมาย ซึ่งศาลฎีกา จะนัดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกา และผู้บริหารศาลยุติธรรมทั่วประเทศในวันที่ 27 เม.ย.2549 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา สนามหลวง และหลังจากการประชุมใหญ่ดังกล่าวแล้วในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย.2549 เวลา 10.00 น.จะจัดประชุมร่วมระหว่าง นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ห้องรับรอง สำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 ศาลอาญา
ต้องยอมรับว่า ปัญหาวิกฤตบ้านเมืองขณะนี้ ทางศาลยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจติดตามความคืบหน้ามาตลอด และมีความเห็นว่า การใช้อำนาจทางตุลาการถ้าเกิดปัญหาขัดข้องแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาการตีความต่างๆ โดยใช้ช่องทางศาล หรือทางตุลาการศาลปกครอง ศาลยุติธรรม หรือศาลรัฐธรรมนูญ ก็ตาม แล้วแต่ว่าอำนาจหน้าที่ของศาล ก็เป็นเรื่องที่วันศุกร์นี้จะมีการปรึกษาหาข้อยุติ เพื่อเป็นทางออกให้กับบ้านเมืองได้ในระดับหนึ่งจนถึงที่สุด เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว
นายชัช กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า อำนาจอธิปไตยในสามอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการต่างๆ เมื่อบ้านเมืองเกิดวิกฤตการณ์ในการใช้อำนาจนิติบัญญัติ มีการยุบสภาแล้ว ก็เหลือเพียงอำนาจตุลาการที่จะพอชี้ขาดตัดสินด้วยความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม เพราะว่าเป็นองค์กรของการใช้อำนาจตุลาการที่มีกฎหมายรับรอง แต่ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์แต่ละฝ่าย ของบุคคลใด หรือสถาบันที่ไม่มีกฎหมายรับรองก็เป็นเรื่องของความคิดเห็นของบุคคลหรือสถาบันนั้น ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยถือว่ารับฟังได้ แต่การหาข้อยุตินั้นคงต้องเป็นหน้าที่ของศาลเป็นหลัก เพราะอำนาจอธิปไตยทั้งสามอำนาจ อำนาจตุลาการเกี่ยวข้องในปัญหาวิกฤตทางด้านตีความแปรความกฎหมายในขณะนี้ เชื่อว่าหลังจากการประชุมใหญ่ของศาลฎีกาในวันพรุ่งนี้ และการประชุมของสามประธานศาล ในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าและได้ข้อยุติในการแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ระดับหนึ่ง
จะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย ให้ใช้สิทธิทางกระบวนตุลาการตัดสินชี้ขาดหาข้อยุติเป็นเด็ดขาด ไม่ว่าจะโดยเป็นคำสั่ง หรือคำร้องอย่างใดก็ตาม เพื่อให้เกิดความสงบสุขกับบ้านเมืองโดยเร็วที่สุด ในวงการศาลยุติธรรมมีความร้อนอกร้อนใจกับประชาชนทั่วไปที่มีความทุกข์ในเรื่องของปัญหาบ้านเมือง ซึ่งทำให้ความสงบและเศรษฐกิจของบ้านเมืองขาดหายไป อยากจะวิงวอนทุกฝ่ายให้มาใช้สิทธิทางศาล เพื่อให้เกิดความสงบให้รวดเร็วที่สุด นายชัช กล่าว
เลขาธิการศาลยุติธรรม กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีว่าหลายฝ่ายเมื่อได้ฟังกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อคืนนี้ ทุกฝ่ายกำลังปรับตัวเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องและชอบธรรมมากยิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่ายจะไม่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ศาลยุติธรรมทั้งประเทศก็มีความห่วงใยประเทศเช่นเดียวกับพวกท่านทั้งหลาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาใช้อำนาจตุลาการ โดยเฉพาะในเรื่องวิกฤตการณ์การเลือกตั้งที่มีอยู่ในขณะนี้จะสามารถใช้สิทธิทางศาลอย่างไรได้บ้าง และจะมีการเชิญตัวแทนจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงปัญหาการเลือกตั้ง ซึ่งถูกมองว่าไม่โปร่งใสหรือไม่ นายชัช ตอบว่า การใช้สิทธิทางศาลในปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการฉีกบัตรเลือกตั้ง หรือข้อสงสัยที่ว่าจะเปิดสภาได้หรือไม่ถ้ามี ส.ส.ไม่ครบ 500 คน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ประธานศาลแต่ละศาลจะต้องหารือกัน และชี้ขาดว่า ในเรื่องประเด็นนั้นๆ อยู่ในอำนาจของศาลได้ และจะมีทางออกอย่างไร สุดท้ายปัญญาขัดแย้งในสังคมทุกเรื่องจะต้องมีข้อยุติโดยสถาบันที่กฎหมายรับรอง แต่จะเป็นศาลยุติธรรม ศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญก็แล้วแต่ ส่วนการวินิจฉัยเช่นไรเป็นเรื่องอำนาจทางศาล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ประธานศาลทั้งสามศาลเคยมีการพูดคุยถึงปัญหาเหล่านี้นอกรอบหรือไม่ นายชัช กล่าวว่า ยังไม่เคย แต่เคยมีแนวคิดของสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะจัดประชุมร่วมกันของทั้งสามประธานตุลาการเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤต ในวันที่ 21 เมษายน ซึ่งเป็นวันศาลยุติธรรม แต่เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการเนื่องจากเวลากระชั้นชิด แต่เมื่อมีพระราชดำรัสทุกฝ่ายจึงต้องรีบจัดการเพื่อสนองพระราชดำรัส