นายกฯซัด นโยบายเพื่อไทย ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 ถามเอาเงินจากไหน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ มีการพิจารณาของขวัญปีใหม่ของแต่ละกระทรวง โดยจะทยอยพิจารณา เพราะยังมีเวลาอยู่ และต้องดูให้รอบคอบ ตนจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ทำเพื่อการเมือง อันไหนที่ทำได้เราก็ทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย
ส่วนที่วันนี้ยังไม่มีการพิจารณาโครงการเราเที่ยวด้วยกันหรือช้อปดีมีคืน นายกรัฐมนตรี ระบุว่าต้องดูว่างบประมาณที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ อันไหนทำได้ทำไม่ได้ต้องดูให้ดี หากมองมิติด้านการเมืองอย่างเดียวทุกคนต้องการมากที่สุดดีที่สุด เราในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องพยายามคัดกรองการใช้งบประมาณแต่ละโครงการมากน้อยเพียง เราไม่อยากสร้างภาระการเงินกันคลังไว้ในวันข้างหน้า ยืนยันว่าขณะนี้ยังมีเวลาในการพิจารณาโครงการดังกล่าว โดยหลังจากที่ตนเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียนสหภาพยุโรปสมัยพิเศษ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12 - 15 ธันวาคมนี้ จะมีการพิจารณาอีกครั้งเนื่องจากขณะนี้มีบางมาตรการทยอยส่งเข้ามาพิจารณายังที่ประชุมครม.แล้ว แต่ต้องดูกฎหมายประกอบด้วย จึงจะตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจนด้านการเมืองหลังจากเดินทางกลับจากการประชุมที่เบลเยียมหรือไม่ เพราะขณะนี้พรรคการเมืองมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.รวมไปถึงนโยบาย อย่างล่าสุด พรรคเพื่อไทยมีการประกาศนโยบาย ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท และจบปริญญาตรี เงินเดือน 25,000 บาท
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องไปดู ว่าทำได้จริงหรือไม่ หลายเรื่องมีการเปิดเผยมาตลอด จะทำนู่นทำนี่ไม่ง่ายนักหรอก ซึ่งวันนี้รัฐบาลทำโครงสร้างต่างๆมากมาย เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต การจะขึ้นค่าแรงจะต้องเข้าศูนย์ที่ประชุมคณะกรรมการ 3 ฝ่าย นักลงทุนผู้ประกอบการรับไหวหรือไม่ ทุกวันนี้ค่าแรงก็มีความแตกต่างอยู่แล้ว รายงานที่มีฝีมือค่าแรงสูงอยู่แล้ว และบอกอาชีพสูงกว่า 600 บาท และรัฐบาลมีการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อตอบสนอง แรงงานยุคใหม่ที่ทำงานกับเครื่องจักรและกิจการที่มีรายได้สูง ซึ่งค่าแรงเฉลี่ยแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันอยู่แล้ว ทำให้มีแรงทำให้มีแรงงานที่มีรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำมากพอสมควร ซึ่งในการประชุมเอเปคก็มีการหารือในเรื่องนี้ ทำอย่างไรจะให้ค่าแรงสูงขึ้น ซึ่งต้องฟังผู้ประกอบการด้วย รวมถึงให้ประชาชนได้ประโยชน์ วันนี้มีการพัฒนาฝีมือแรงงานรุ่นใหม่ เพื่อทำงานทั้งในและต่างประเทศ ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น
ก่อนที่จะย้อนถามสื่อมวลชนว่า เงินเดือนจบปริญญาตรี 25,000 บาทจะนำรายได้มาจากที่ใด ถ้ามีเงินก็โอเค เท่าไหร่ก็ได้ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพื่อเพิ่ม GDP ให้กับประเทศ ซึ่งงบประมาณแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำ รวมถึงนำมาดูแลกลุ่มเปราะบางทั้งผู้พิการและคนชรา ซึ่งถ้าจะเพิ่มเงินเดือนก็จะต้องหารายได้ พร้อมกับระบุว่าต้องทยอยทำ พร้อมจัดเก็บหารายได้จัดเก็บภาษีเข้ารัฐบาล
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง กรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จะเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ โดยจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันนี้ว่า "ยินดีด้วยแล้วกัน" และเมื่อสื่อฯถามถึงมีปัจจัยการยุบสภาฯหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มี
เมื่อถามย้ำว่าหลังเดินทางกลับจากเบลเยี่ยม นายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจนทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
แต่เมื่อถามว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ส่งมายังรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายังไม่เห็น ก่อนที่จะหันกลับไปถามทีมงานว่ากฎหมายอะไรนะ เมื่อทราบว่าเป็นกฎหมายลูก นายกรัฐมนตรีตอบว่า ยังไม่ส่งมา
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีเดินหน้าทำการเมืองแล้วไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ในรูปแบบการทำการเมืองของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ ยืนนิ่งสักพัก ก่อนที่จะกล่าวว่า การเมืองคนที่ทำเขาทำกันอยู่แล้วล่ะ คือการทำอย่างไรไม่ให้เป็นภาระในวันข้างหน้า เช่นการจะกู้อะไรต่างๆ ก็ต้องระมัดระวังมากที่สุด ต้องดูว่ารายได้เพียงพอหรือไม่ที่จะใช้จ่ายในทำนองนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ภาพรวมของสถานการณ์ การเงินการคลังล้มเหลว
ส่วนปีหน้านายกรัฐมนตรีมีการตั้งเป้าหมายการทำงานอย่างไรบ้างนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวชัดเจนเป็นครั้งแรกว่า "ผมก็อยู่ถ้าสมมติว่าจำเป็นต้องอยู่ ผมก็อยู่ได้แค่ปี 68 นั่นแหละ"
เมื่อสื่อถามย้ำว่าจะสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็เดี๋ยว ผมยังไม่ได้พูดเท่านั้นเอง เมื่อถามย้ำอีกว่าจะตัดสินใจสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง เหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบ แต่เงี่ยหูฟัง
เมื่อถามว่า มาขนาดนี้แล้วจะรอให้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการจึงจะประกาศความชัดเจนทางการเมืองใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าสั้นๆเพียงว่า เออ