
ทักษิณ ชนะคดีภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ทักษิณ ชนะคดีภาษีหุ้นชินคอร์ป 1.7 หมื่นล้าน

ศาลภาษีอากรกลาง พิพากษาให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ชนะคดี กรณีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมสรรพากร และจำเลยบุคคล รวมทั้งหมด 4 ราย เรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ป 17,000 ล้านบาท ชี้คำสั่งกรมสรรพากร มิชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (8 ส.ค.2565) ศาลภาษีอากรกลาง อ่านคำพิพากษาคดีความแพ่ง หมายเลขดำ ภ.220/2563 ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมสรรพากร จำเลยที่ 1 นายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ จำเลยที่ 2 นายประภาส สนั่นศิลป์ จำเลยที่ 3 นายพิสิทธิ์ ศรีวรานันท์ จำเลยที่ 4 กรณีประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "ชินคอร์ป" จำนวน 17,000 ล้านบาท โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานของกรมสรรพาก รถือเอาการออกหมายเรียก นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว ในฐานะตัวแทน เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (8 ส.ค.2565) ศาลภาษีอากรกลาง อ่านคำพิพากษาคดีความแพ่ง หมายเลขดำ ภ.220/2563 ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมสรรพากร จำเลยที่ 1 นายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ จำเลยที่ 2 นายประภาส สนั่นศิลป์ จำเลยที่ 3 นายพิสิทธิ์ ศรีวรานันท์ จำเลยที่ 4 กรณีประเมินเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ "ชินคอร์ป" จำนวน 17,000 ล้านบาท โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานของกรมสรรพาก รถือเอาการออกหมายเรียก นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาว ในฐานะตัวแทน เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เพราะการประเมินต้องออกหมายเรียกไปยังโจทก์ ซึ่งเป็นผู้ถูกประเมินโดยตรง แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานประเมินไม่ได้ออกหมายเรียกตรวจสอบโจทก์ภายในเวลาที่กำหนด และนิติกรรมที่ทำขึ้นทั้งในขณะนั้นและหลังจากนั้น ไม่ก่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธ์ในหุ้นของ บริษัทชินคอร์ปฯ เพราะนายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ไม่ใช่เจ้าของหุ้นที่แท้จริง จึงถือว่านายทักษิณ เป็นเจ้าของหุ้น
ขณะที่กรมสรรพากรให้นายทักษิณ เสียภาษี อย่างผู้มีรายได้พึงประเมินนั้น ศาลถือว่านายทักษิณ ไม่ใช่ผู้มีเงินได้พึงประเมิน ทำให้การประเมินของเจ้าพนักงานไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลภาษีอากรกลาง จึงพิพากษาให้เพิกถอนการประเมิน
ขณะที่กรมสรรพากรให้นายทักษิณ เสียภาษี อย่างผู้มีรายได้พึงประเมินนั้น ศาลถือว่านายทักษิณ ไม่ใช่ผู้มีเงินได้พึงประเมิน ทำให้การประเมินของเจ้าพนักงานไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลภาษีอากรกลาง จึงพิพากษาให้เพิกถอนการประเมิน

กรมสรรพากรเตรียมอุทธรณ์ภายใน 30 วัน
คดีนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติ ให้ยึดทรัพย์สินในส่วนของทักษิณ และครอบครัว ที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ จำนวน 46,000 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
หลังจากนั้นระหว่างปี 2549-2552 กรมสรรพากรได้ประเมินภาษีโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ กับน.ส. พานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ว่า เป็นตัวแทนของนายทักษิณ จึงต้องเก็บภาษีจากคนทั้งสอง รวมวงเงิน 17,000 หมื่นล้านบาท จนนำมาสู่การฟ้องร้องคดีนี้
นายสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร ระบุว่า กรมสรรพากร มีเวลาที่จะอุทธรณ์ 30 วัน หลังคำตัดสิน ซึ่งจะหารือกับอัยการ เพื่อดำเนินการต่อไป โดยยังเหลือการพิจารณาในชั้นศาลสูงสุด ซึ่งก็มั่นใจ ในแนวทางการดำเนินการของกรมว่าถูกต้องตามกฏหมาย
คดีนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติ ให้ยึดทรัพย์สินในส่วนของทักษิณ และครอบครัว ที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ จำนวน 46,000 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
หลังจากนั้นระหว่างปี 2549-2552 กรมสรรพากรได้ประเมินภาษีโอนหุ้นบริษัท ชินคอร์ปฯ กับน.ส. พานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ว่า เป็นตัวแทนของนายทักษิณ จึงต้องเก็บภาษีจากคนทั้งสอง รวมวงเงิน 17,000 หมื่นล้านบาท จนนำมาสู่การฟ้องร้องคดีนี้
นายสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร ระบุว่า กรมสรรพากร มีเวลาที่จะอุทธรณ์ 30 วัน หลังคำตัดสิน ซึ่งจะหารือกับอัยการ เพื่อดำเนินการต่อไป โดยยังเหลือการพิจารณาในชั้นศาลสูงสุด ซึ่งก็มั่นใจ ในแนวทางการดำเนินการของกรมว่าถูกต้องตามกฏหมาย
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว