ปริญญ์ รอดนอนคุกคดีอนาจาร พร้อมตั้งเงื่อนไขหลังศาลให้ประกันตัว

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2561 น.ส.หนิง นามสมมุติ ผู้เสียหาย อายุ 17 ปีเศษ ซึ่งเรียนจบ ม.6 ระหว่างรอเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ได้พบโฆษณาการอบรมโครงการ "โตแล้ว ไปไหน" โดยบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.หนิง สนใจที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเกี่ยวกับ "หลักทรัพย์และการลงทุน" จึงขออนุญาตบิดาและผู้ปกครองสมัครเข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าวโดยเช่าห้องพักในคอนโดเเห่งหนึ่งย่านราชเทวี ซึ่งหลักสูตรมีคนเข้าร่วมอบรม รวม 2 คน

ต่อมาวันที่ 25 เม.ย.2561 นายปริญญ์ไปเป็นพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ จึงให้ น.ส.หนิง และเพื่อนออกมา ฝึกงานนอกสถานที่ โดยในวันดังกล่าว น.ส.หนิง ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงสีดำ จนเมื่อเสร็จงานเวลาประมาณ 15.00 น.นายปริญญ์ได้ให้เพื่อนของ น.ส.หนิง แยกกลับบ้าน แล้วได้พูดชักชวนว่าจะไปส่ง น.ส.หนิง ที่คอนโดโดยรถยนต์ตู้สีดำ แต่ น.ส.หนิง ไม่ยินยอม นายปริญญ์จึงอาสาจะไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก เนื่องจากเห็นว่าเป็น "พี่ต้นแบบอาชีพ" ที่มาฝึกอบรมอยู่ และจะต้องเป็นผู้ประเมินการฝึกอบรม น.ส.หนิง จึงยินยอมให้ไปส่ง โดยมีคนขับรถ

ส่วนนายปริญญ์ นั่งคู่กับ น.ส.หนิง ระหว่างนั้นนายปริญญ์ได้ชวนพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าคนขับรถจะรู้เรื่องที่คุยกัน โดยสอบถามผู้เสียหายว่าเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือไม่ เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราว หรือความสัมพันธ์แบบคนเดียวหรือไม่ และพูด ขอมีเพศสัมพันธ์ โดยออกอุบายชักชวนให้ไปทานข้าว และชวนไปดื่มกันต่อ โดยได้ใช้มือลูบแขนแล้วจับบริเวณต้นขาลูบไล้ไปมา พร้อมทั้งโอบกอดและพยายามหอมแก้มหลายครั้ง น.ส.หนิง ต้องอยู่ในรถกับนายปริญญ์ นานประมาณ 45 นาที เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก จึงขอลงจากรถ จากนั้นเกรงว่าหากไปฝึกอบรมอีก อาจจะเกิดอันตราย และจะถูกนายปริญญ์ ลวนลามหรือกระทำอนาจารทางเพศอีก เพราะเห็นว่านายปริญญามีเจตนาที่จะกระทำอนาจาร จึงไม่กล้าจะกลับไปฝึกอบรมอีก จึงโทรศัพท์ไปแจ้งถอนการฝึกอบรมกับบริษัทฯ อีก

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องสอบพยานจำนวน 3 ปาก , รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหามาประกอบสำนวน จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรก มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 5 - 16 พ.ค.นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงจะไปยุ่งหยิงพยานหลักฐาน

ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ต่อมาทนายความนายปริญญ์ ผู้ต้องหา ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน

ศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยตีราคาประกัน 2 เเสนบาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ตองหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล