สิระ วางเงินล้านใส่พานรอตามนัด ท้าพิสูจน์“ลูกนัท”ไม่มาคือหมา!
"ผมไม่เชื่อถือใบรับรองแพทย์ที่นายธนัตถ์นำมาแสดง เพราะ รพ.ยังไม่เห็นออกมาแถลงการรักษาในครั้งนี้แต่อย่างใด ผมอยากทราบว่า คิ้วที่นายธนัตถ์ได้รับบาดเจ็บจะเป็นแผลระหว่างการรักษา เหตุใดถึงไม่ลงในใบรับรองแพทย์ ทั้ง ๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญ ประสบการณ์ชีวิตผม เคยประสบอุบัติเหตุล้มได้รับการ กระทบกระเทือนกับคิ้วและดวงตา จนตาบอดมา 3 เดือน เนื่องจากเคยไปสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ขอให้ตาบอดหากกระทำผิดจริง และตอนนั้นยังเด็กจึงคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริง จึงพูดโกหกด้วยความคึกคะนองคนตาคลีเขาเรียกผมตอนเด็กๆว่าไอ้บอด ไปถามกันได้ แต่ที่แน่ ๆ ใจผมไม่บอด ผมยังมีดวงตาที่เป็นธรรม เห็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์ทำเพื่อพสกนิกรและประเทศไทย ไม่ใช่เหมือนคนที่จะบอดหรือไม่บอดไม่รู้ แต่ออกมาทำเป็นเล่น ๆ เที่ยวแหกตาโชว์ไปเรื่อย" นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า วันนี้ไม่ได้ชวนนายธนัตถ์มาเล่นการพนัน แต่ชวนมาทำบุญครั้งใหญ่ด้วยกัน ถ้านายธนัตถ์ไม่เดินทางมาพร้อมเงินสด 10 ล้านบาท ถือว่าเป็น หมา เนื่องจากว่านายธนัตถ์ เคยบอกว่าจะนำเงินสด 10 ล้านบาทมาวาง ต้องบอกว่าคำพูดเป็นนายเราก็ควรจะทำตามที่ตัวเองพูด และตนจะนำเงินที่ได้ไปซื้อข้าวสารแจกประชาชนชาวหลักสี่ หรือจะนำข้าวสารมาให้ในราคาเทียบเท่ากับเงินสด 10 ล้านบาทก็ได้ เพราะเจตนาของตนคือต้องการนำข้าวสารหอมมะลิไปแจกประชาชนชาวหลักสี่-จตุจักร หรือด้วยวิธีใดก็ตามที่สามารถนำเงินไปซื้อข้าวสารแจกชาวหลักสี่ได้ ขออย่างเดียวให้มาเจอตามที่สัญญาลูกผู้ชายที่นัดกันไว้ อย่าให้ตนต้องรอเก้อก็แล้วกัน
กระทั่งเวลา 12.45 น. นายธนัตถ์ ได้มาถึงตามนัดที่บ้านทรงไทย พร้อมนำเช็คเงินสด 10 ล้านบาท มาวางเดิมพัน ปรากฏว่าทันทีที่ นายสิระ เห็นว่าไม่ได้นำเงินสด 10 ล้านบาทมา ทำให้เกิดความไม่พอใจ บอกว่า ตนเป็น ส.ส.รักษาคำพูดนำเงินสดมาและนี่ก็ไม่ใช่การเดิมพัน คือการทำบุญ แต่ข้อตกลงคือเงินสด ดังนั้น ขอกล่าวว่า ตนไม่ใช่เพื่อนเล่น ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น และกล่าวต่อว่า เช็คนี้ใช้ซื้อข้าวได้หรือ มันมีมูลค่าเพียง 10 บาท มาแลกกับเงิน 1 ล้านบาทได้หรือ ตนขอปฏิเสธรับ จากนั้น นายสิระ ได้เดินออกจากจุดแถลงข่าวขึ้นรถขับออกไปทันที