ตร.เผย ม็อบดินแดงเล่นแรง มีไปป์บอมบ์ ปาใส่เจ้าหน้าที่ จับได้ 15 คน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ตร.เผย ม็อบดินแดงเล่นแรง มีไปป์บอมบ์ ปาใส่เจ้าหน้าที่ จับได้ 15 คน
ตร.เผย ม็อบดินแดงเล่นแรง มีไปป์บอมบ์ ปาใส่เจ้าหน้าที่ จับได้ 15 คน
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 20 ส.ค.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น./โฆษก ตร. กล่าวสรุปเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า วันที่ 20 ส.ค. โดยไล่เรียงเหตุการณ์ ตั้งแต่นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์สมรภูมิ ก่อนจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือต่อสถานทูต 3 แห่ง ได้แก่ สถานเอกอัครราขทูตสวิตเซอร์แลนด์ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนสลายตัวไปเมื่อช่วงบ่าย
จากนั้นเวลาประมาณ 16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่ง มารวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ โดยการใช้พลุเพลิง ประทัดยักษ์ ระเบิดขวด และยังพบว่า บางส่วนใช้ระเบิดไปป์บอมบ์ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่เป็นครั้งแรก ตำรวจจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย และสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดอย่างน้อย 15 คน นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งของผู้กระทำผิด ยังใช้เครื่องกระสุนปืน และระเบิดปิงปองที่นำมาด้วย ใส่ในหีบห่อหรือกระเป๋าของพนักงานส่งอาหารบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ผลการจับกุมคดีสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม เช่น จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเผาป้อมจราจร ใต้ทางด่วนดินแดง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีภาพหลักฐานยืนยันขณะกระทำผิด และตรวจค้น พบเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันเกิดเหตุ จากการสอบสวน สารภาพว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุจริง อีกคดี ตำรวจนครบาล ยังร่วมกับตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ที่มีการชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ และจำหน่ายวัตถุระเบิด พร้อมยึดระเบิดปิงปอง 75 ลูก
ส่วนกรณีมีการเผยแพร่ภาพผู้ชุมนุมถืออาวุธปืนในพื้นที่การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ผู้ชุมนุมถือ ไม่ใช่อาวุธปืน แต่เป็นช่องเสาไฟ แต่ตำรวจพร้อมสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ณ สถานที่จริง พบว่าบริเวณดังกล่าวไม่ช่องเสาไฟแต่อย่างใด สอดคล้องกับข้อมูลของฝ่ายสืบสวน ที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบชัดว่า มีการถืออาวุธปืนในพื้นที่ชุมนุมจริง ซึ่งจะมีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น