ถกงบปี65วันแรก12ชม. ฉลุยม.8งบกลาโหม 226 เสียง นัดถกต่อพรุ่งนี้

เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ที่รัฐสภา ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร เสียงข้างมาก ได้ลุกขึ้นชี้แจงกรณีงบประมาณของกองทัพบก แทน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธาน กมธ.งบประมาณฯ ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ขอให้เป็นผู้ตอบคำถาม กรณีที่ กมธ.เสียงข้างน้อย ตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีรายละเอียดงบกองทัพแจกแจงในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และเหตุใด กมธ.เสียงข้างมาจึงยกมือผ่านงบจำนวนมากของกองทัพ โดยเฉพาะงบจัดซื้ออาวุธและยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ประเทศเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19

โดย นายสรวุฒิ ชี้แจงว่า ท่ามกลางวิกฤตมากมายที่เกิดขึ้น กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุด งบของกระทรวงกลาโหม จำนวน 9.2 หมื่นล้านบาท นั้น กระทรวงกลาโหมถูกปรับลดเป็นอัตราส่วนและเนื้อเงินที่มากที่สุด ภารกิจของประเทศไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เราเรียกร้องให้ใช้งบอย่างคุ้มค่าเรื่องโควิด แต่เมื่อจบโควิด-19 ไปแล้ว เราจะเดินหน้าอย่างไรต่อ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทัพเองก็ปรับตัวมาโดยตลอด กำลังพลจาก 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ปรับลดเหลือเพียง 75 เปอร์เซ็นต์ อาวุธยุทโธกรณ์ก็ปรับลดมาตลอด และพยายามจะให้เหลือเพียง 33 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ทุกส่วนมีความสำคัญ อำนาจในการต่อรองของประเทศก็มีความจำเป็นไม่น้อยกว่าด้านอื่น จากการพิจารณาในห้องงบประมาณจะเห็นว่า งบประมาณล้วนเป็นเรื่องขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อพูดคุยกันด้วยเหตุผลก็มีการปรับลดถึง 1 พันล้านบาท ที่สูงพอสมควร ดังนั้น กมธ.เสียงข้างมากขอยืนยันมาตรานี้ไว้เช่นเดิม

กระทั่งเวลา 20.08 น.ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบมาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนนเห็นด้วย 226 เสียง ไม่เห็นด้วย 122 เสียง งดออกเสียง 0 และไม่ลงคะแนน 3 เสียง

โดยในวันแรกของการประชุม ใช้เวลาประชุมไป 12 ชั่วโมง ก่อนที่ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม สั่งปิดการประชุมเวลา 20.15 น.และนัดประชุมใหม่ในพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) เวลา 09.30 น.