ปิยะ ต๊ะวิชัย ยันปืนจ่อหัวเป็นยุทธวิธี! ปัดใช้กระสุนจริง-ไม่เกินกว่าเหตุ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ปิยะ ต๊ะวิชัย ยันปืนจ่อหัวเป็นยุทธวิธี! ปัดใช้กระสุนจริง-ไม่เกินกว่าเหตุ
วันที่ 2 ส.ค.64 - พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยกรณีการสลายการชุมนุมคาร์ม็อบบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนมีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ว่า ตำรวจสามารถควบคุมผู้ชุมนุมจากที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้ทั้งหมด 10 คน และเมื่อคืนนี้สามารถจับกุมผู้ร่วมชุมนุมได้อีก 1 คน โดยนำตัวผู้ต้องหาทุกคนไปควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ต้องหา ก่อนจะฝากขังผ่านระบบ video conference กับศาล แต่หากฝากขังไม่ทันก็จะเลื่อนออกไปเป็นวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) ซึ่งทั้งหมดจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายข้อหา แตกต่างออกไปตามแต่กรณี
สำหรับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวานนี้มี 13 นาย ส่วนใหญ่เป็นการบาดเจ็บจากการถูกขว้างปาสิ่งของและประทัดจากกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงการปะทะ ระหว่างผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ยืนยันว่า การปฏิบัติงานของตำรวจเป็นไปตามขั้นตอนและยุทธวิธีในระดับสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งจากภาพคลิปวีดีโอและภาพนิ่งตำรวจมีหลักฐานยืนยันด้วยว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ยั่วยุ ทำลายทรัพย์สินของราชการและลุกลามเข้ามาในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีมีภาพเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน ใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อศีรษะผู้ชุมนุมที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นรูปแบบทางยุทธวิธี ที่เรียกว่า cover and contact เป็นมาตรฐานสากลที่ต่างประเทศใช้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกจากพื้นที่ และเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ชุมนุมบางคนอาจเป็นภัยคุกคามหรืออาจเกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่ที่มีอาวุธปืนลูกซองกระสุนยาง ซึ่งต้องใช้เพื่อตักเตือนให้ออกจากพื้นที่ เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน โดยอาวุธปืนที่ใช้ บช.น.ได้ติดสติ๊กเกอร์เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนว่า กระสุนที่ใช้เป็นกระสุนยาง จากเหตุการณ์ตามภาพก็ไม่มีการยิงผู้ชุมนุม แต่ได้ตักเตือนและไล่ให้ออกนอกพื้นที่ ไม่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะสถานการณ์ในขณะนั้นค่อนข้างเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และก่อนหน้านั้นมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุม
ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมอ้างว่า มีการใช้กระสุนจริงนั้นยืนยันว่า บช.น.ได้กำชับและตรวจสอบไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์นำอาวุธชนิดอื่นนอกจากแก๊สน้ำตา ปืนลูกซอง กระสุนยาง ปืนยิงตะข่ายควบคุมตัว และโล่กระบอง เท่านั้น
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการควบคุมการชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค.นี้ บช.น.กำลังหารือเรื่องแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนจะใช้รูปแบบและยุทธวิธีใดนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอฝากเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมอย่าซ้ำเติมประเทศชาติที่อยู่ในช่วงบอบช้ำอยู่แล้ว หากยังฝ่าฝืนตำรวจจะต้องดำเนินคดีทุกคนต่างกรรมต่างวาระ หากเข้าร่วมชุมนุมหลายครั้งก็จะได้รับโทษเพิ่มสูงขึ้น
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น