ล็อกดาวน์เข้มข้น 13 จังหวัด ขอให้ ปชช. งดออกจากเคหสถานตลอดวัน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ล็อกดาวน์เข้มข้น 13 จังหวัด ขอให้ ปชช. งดออกจากเคหสถานตลอดวัน
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงชี้แจงมาตรการตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ระบุเป็น "มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด" ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม รวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขอให้ประชาชนงดออกจากเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็นในเวลากลางวัน ยกเว้นเพื่อจัดหาอาหาร ยา พบแพทย์ รับวัคซีน และอาชีพจำเป็น มีผล (20 ก.ค.)
"ให้งดภารกิจที่ต้องออกเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น นอกจากเคอร์ฟิวแล้ว ในช่วงเวลากลางวันขอให้ท่านงดการเดินทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้" นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าว
สำหรับกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นให้เดินทางออกนอกเคหสถานในเวลากลางวันได้ ได้แก่ การจัดการเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร ยา เวชภัณฑ์ การพบแพทย์ รับบริการสาธารณสุข รักษาพยาบาล รับวัคซีน หรืออาชีพที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติงานที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้
โฆษก ศบค. ระบุว่า มาตรการนี้เป็นข้อสรุปสาระสำคัญจากที่ประชุม ศปก.ศบค. ชุดที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการปฏิบัติการ โดยเป็นรายละเอียดของมาตรการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ที่ประกาศเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 3 จังหวัด รวมเป็น 13 จังหวัด
พื้นที่ 13 จังหวัด ที่ถูกบังคับใช้มาตรการล่าสุดนี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดที่เพิ่มมา ได้แก่ อยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ในพื้นที่ 13 จังหวัด จะมีการตั้งด่านตรวจและจุดสกัดของทหาร ตำรวจ ภายในพื้นที่จังหวัดเหล่านี้ และด่านตรวจเพื่อควบคุมการเดินทางเข้าออก 6 จังหวัด กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้ชุดตรวจที่ชื่อว่า "ชุดตรวจเข้มแข็ง" กระจายไปในชายขอบของ 6 จังหวัดภาคกลาง
"ความไม่สะดวกสบายที่จะเกิดขึ้นตอนนี้เพื่อลดการเดินทางของท่าน ขอให้อยู่ในเคหสถาน มาตรการเหล่านี้ ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร จะช่วยกันทำงานและเข้มข้นมากขึ้น"
ในช่วงเวลาระหว่างวันในพื้นที่ 13 จังหวัด นพ.ทวีศิลป์ บอกว่าจะมีความยุ่งยากในการเดินทางข้ามพื้นที่ใน 14 วันนี้
"คาดการณ์ได้เลยครับว่า สิ่งที่ท่านอยากจะสะดวกสบายจะไม่เกิดขึ้น แล้วก็จะทำให้ท่านต้องตัดสินใจใหม่ที่จะไม่ออกจากบ้าน นี่คือสิ่งที่จะเกิดตั้งแต่วันนี้"
-เจ้าหน้าที่ทางด้านการสาธารณสุข
-การขนส่ง เพื่อประโยชน์ด้านอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมัน เชื้อเพลิง ไปรษณีย์ พัสดุ สิ่งพิมพ์ สินค้าเพื่อส่งออก นำเข้า
-การขนย้ายประชาชน
-การให้บริการประชาชน
-การประกอบอาชีพจำเป็น ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้
-อื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเฉพาะรายของเจ้าหน้าที่
-ห้ามออกนอกเคหสถานช่วงเวลา 21.00-04.00 น.
- เลี่ยง จำกัดหรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น สำหรับการเดินทางในกรณีที่จำเป็นที่สามารถกระทำได้ เช่น การเดินทางเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การพบแพทย์ รับวัคซีน การรักษาพยาบาล หรือความจำเป็นในการปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือในการกระจายสิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
-ให้ทำงานจากที่บ้าน 100% ทั้งรัฐและเอกชน ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณสุข การควบคุมโรค ระบบสาธารณูปโภค การจราจร บรรเทาสาธารณภัย การรักษาความสงบ หากจำเป็นต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคุล
-ให้ใช้เอกสารรับรองการเดินทาง หรือแสดงคิวอาร์โค้ดที่ด่านตรวจเข้าออก สำหรับเอกสารรับรองการเดินทาง ให้ขอได้ที่เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือลงทะเบียนผ่านไทยชนะ ณ ด่านตรวจ หรือเว็บไซต์หยุดเชื้อเพื่อชาติ
-จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศให้เหลือไม่เกิน 50% ของความจุ
ห้ามรวมกลุ่มกิจกรรมเกิน 5 คน
ห้ามรวมกลุ่มกิจกรรมเกิน 5 คน
พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือสมช ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) อธิบายเพิ่มเติมเรื่องการงดออกนอกเคหสถาน ตามข้อกำหนดฉบับที่ 28 ว่า แบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก-ช่วงเวลาเคอร์ฟิว ระหว่างเวลา 21.00 - 04.00 น. เป็นการบังคับสั่งห้ามการออกนอกที่พักอาศัย ส่วนที่สอง-ช่วงนอกเวลาเคอร์ฟิวให้งดและหลีกเลี่ยงการออกนอกเคหสถาน ยกเว้นมีความจำเป็นในบางกิจกรรม
"ช่วงนี้ขอใช้คำว่า 'ให้' ไปก่อนนะครับ ให้งด ให้หลีกเลี่ยง เพราะว่าเมื่อถึงมาตรการที่เข้มข้นต่อไป อาจจะจำเป็นต้องใช้คำว่า 'ห้าม' เมื่อถึงคำว่าห้ามแล้วเนี่ย คงมีกิจการหรือกิจกรรม ที่ได้รับการยกเว้นน้อยกว่านี้มาก" พล.อ. ณัฐพลกล่าว
"สำหรับฟูลล็อกดาวน์นั้น เราไม่ได้มองตัวเลขใดตัวเลขหนึ่ง เรามองหลายปัจจัย ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนสถานพยาบาลที่มีอยู่ แล้วก็ปัจจัยอื่น ๆ ในแง่เศรษฐกิจด้วย มองในทุกมิตินะครับ ไม่ได้มองในแง่ด้านใดด้านหนึ่งด้านเดียว" พล.อ. ณัฐพลกล่าว
เลขา สมช. ยังพูดถึงข้อเรียกร้องจากภาคประชาสังคมบางส่วนที่ต้องการให้รัฐบาลไทยจำกัดจำนวนการส่งออกวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดย บ. สยามไบโอไซเอนซ์ในประเทศไทย เพื่อให้ไทยมีวัคซีนโควิดอย่างเพียงพอว่า ช่วงเช้า (19 ก.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว. สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือในเรื่องนี้ เพื่อปรับแผนการจัดหาวัคซีนรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ และจำนวนวัคซีนที่เข้ามาไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยนายอนุทินจะกลับไปพิจารณาและกลับมารายงานนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น