ยัน ม็อบรีเด็มสร้างความวุ่นวาย จนท.ต้องคุมสถานการณ์

เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณด้านหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ผู้ชุมนุม กลุ่มรีเด็ม (REDEM) ได้นัดรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเคลื่อนขบวนมายังศาลอาญา

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จากนั้น 17.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาวัตถุสิ่งของ ก้อนหิน ก้อนอิฐ ขวดน้ำใส่สี ลูกแก้วเข้าไปในรั้วศาลอาญา มีวัตถุประสงค์จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านในศาล และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ จากนั้นตำรวจได้แจ้งเตือนว่าการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากยังมีการระบาดของโควิด-19 แต่ผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งปาระเบิดปิงปอง พลุ ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ต่อมาทางกลุ่มรีเด็มได้ประกาศยุติการชุมนุม บางส่วนเดินทางกลับ ยังคงเหลือบางส่วนที่ก่อความวุ่นวายต่อเนื่อง

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ผลจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ส่วนใหญ่บริเวณหน้าศาลอาญา ฝั่งตรงข้ามซอยรัชดาภิเษก 32 ไว้ได้ แต่ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนล่าถอยไปในซอย ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ 1 ราย นำตัวส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดี และได้รับรายงานว่าตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3-4 ราย ส่วนผู้ชุมนุมยังไม่ได้รับรายงานว่ามีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ยังไม่สงบดี

"สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมนอกจากผู้ที่ถูกจับกุมได้วันนี้ ก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีภายหลัง ในข้อหาฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, การรวมตัวกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่" พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ถอนกำลังไปไหน คงรักษาพื้นที่ตรงนี้อยู่ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง ยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นผู้ชุมนุมได้เริ่มก่อความวุ่นวายในเกิดในบ้านเมือง และตำรวจอยู่ในฝ่ายที่ตั้งรับมาโดยตลอด จนถึงจุดที่มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย มิฉะนั้นจะทำให้สถานการณ์บานปลายไปมากกว่านี้