ทวี ไกรคุปต์ เบี้ยวนำชี้ที่ดิน ยันตัวเอง-ลูก ไม่เคยรุกป่า
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 มี.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ สุขมงคล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า รบ.2 (บ้านบ่อหวี) นายชาติชาย ถิ่นโพธิ์วงศ์ ปลัด อบต.ท่าเคย และเจ้าหน้าที่ที่ดินอ.สวนผึ้ง ตำรวจ บก.ปทส. ร่วมตรวจสอบที่ดินของ นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ พื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้แจ้งความตามคดีอาญาที่ 419/2562 ให้ดำเนินคดีนายทวี ไกรคุปต์ เพราะเชื่อว่า มีการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งหมด 7 แปลงมีพื้นที่จำนวน 1,039 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ทางตำรวจ บก.ปทส. ได้รับโอนคดีมาดำเนินการ พร้อมอยู่ในกระบวนการการสอบสวนคดีอาญาที่ 2/2563 และ 3/2563 ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติอนุญาตให้สอบสวนคดีอาญาที่ 419/2562 และ 420/2562 จึงมีความจำเป็นในการตรวจสอบประเภทที่ดิน รังวัดพื้นที่ จำนวนเนื้อที่ดิน และตำแหน่งที่ดินบริเวณโดยรอบแปลงที่ดินที่เกิดเหตุ โดยให้นายทวี นำชี้แนวเขตและแสดงหลักเอกสารสิทธิ
จากการสอบถามตำรวจ บก.ปทส. ทราบว่า วันนี้ได้มาตามนัดหมายที่คุณทวี ได้นัดหมาย แต่เนื่องด้วยคุณทวี ได้แจ้งเลื่อนวัน ไม่มาตามนัดหมาย จึงทำให้ไม่สามารถเข้าพื้นที่ตรวจสอบอะไรได้ ด้วยเพราะไม่มีคนนำชี้และอนุญาตเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องเดินทางมายังหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สวนผึ้ง รบ.2 (บ้านบ่อหวี) เพื่อตรวจสอบของกลางที่ได้ทำการตรวจยึดไว้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.63 ที่ผ่านมา คือเลื่อยวงเดือนที่มีขนาดเกินตามที่กฏหมายกำหนด และทำหนังสือลงบันทึกการตรวจสอบไว้ หลังจากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการทางกฏหมายต่อไป โดยจะรวบรวมสำนวนสอบสวน พยานหลักฐานทั้งหมดส่งฟ้องต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายทวี ไกรคุปต์ เพื่อสอบถึงการเลื่อนนัดหมาย เจ้าตัวชี้แจงว่า ตามที่ ผบก.ปทส. ได้สั่งการให้ตำรวจ บก.ปทส. กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ อ.สวนผึ้ง และอบต.ท่าเคย รวมประมาณ 20 คน มาที่ไร่ของตน โดยอ้างว่ามาตามนัดที่ตนได้นัดไว้ เพื่อตรวจเอกสารสิทธิ์ นส.3 และตรวจสอบที่ดินของตน ทำให้ตนรู้สึกงงมาก เพราะทาง บก.ปทส.ไม่ได้มีหนังสือแจ้งมายังตนว่าให้ตนเข้ามาชี้จุดเขตที่ดินที่ตนถือสิทธิ์อยู่ และนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงในวันนี้ ซึ่งตามที่เป็นข่าวว่า ตนนัดแล้วไม่มา คนที่พูดน่าจะถอดเครื่องแบบ ตำรวจ ปทส. มาพูด ถือเป็นการปรักปรำตนเป็นข้อความเท็จ ทำให้ตนเสียหาย เหมือนตนไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ตนยืนยันได้ว่าตนไม่เคยได้รับหนังสือนัดหมายในวันนี้