ครม.เห็นชอบ ชะลอการขยายเกษียณอายุราชการ


ครม.เห็นชอบ ชะลอการขยายเกษียณอายุราชการ

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 มีสัดส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ.2573 ดังนั้น ทุกภาคส่วนจึงต้องมีแผนรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งในส่วนของข้าราชการพลเรือน ทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารบุคลากรภาครัฐ ได้ดำเนินการศึกษาแนวทางการขยายอายุเกษียณราชการ ตามแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม มาระยะหนึ่งแล้ว โดยกำหนดสาระสำคัญให้การขยายอายุเกษียณราชการเป็นมาตรการเพื่อรองรับสังคมสูงวัย และสนับสนุนให้บุคลากรภาครัฐมีงานทำหลังเกษียณ รวมถึงการบริหารกำลังคนภาครัฐในช่วงวัยต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งแนวทางหนึ่งคือ การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายอายุเกษียณราชการจาก 60 ปี เป็น 63 ปี โดยไม่ครอบคลุมหน่วยงานที่ต้องใช้ศักยภาพทางร่างกาย

อนึ่ง สำนักงาน ก.พ. ได้รับรายงานและข้อเสนอแนะ เรื่อง การจ้างข้าราชการภายหลังเกษียณอายุ 60 ปี เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา โดยทาง สำนักงาน ก.พ. ได้จัดให้มีการประชุมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีข้อสรุปดังนี้

1. เห็นด้วยกับการชะลอการขยายเกษียณอายุราชการตามแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม (จากเกษียณอายุ 60 ปี เป็น 63 ปี) เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมรวมถึงระบบการคลังและงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งควรใช้จ่ายงบประมาณที่มีจำกัดเพื่อให้เกิดการจ้างงานกลุ่มเปราะบางก่อนเป็นอันดับแรก และเมื่อสามารถจัดการสถานการณ์โควิด-19 ได้แล้ว จึงนำกลับมาพิจารณาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่อไป

2. เห็นด้วยกับการจ้างงานเพื่อใช้ศักยภาพข้าราชการเกษียณ ที่เสนอให้มีการกำหนดทางเลือกที่หลากหลายในการจ้างงานข้าราชการที่เกษียณอายุราชการควบคู่ไปกับมาตรการขยายอายุเกษียณ ทั้งนี้ ให้พิจารณาตามความจำเป็นและความต้องการบุคลากรในแต่ละตำแหน่งสาขา เช่น ตำแหน่งที่ขาดแคลนกำลังคน ตำแหน่งที่ต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และให้พิจารณาจ้างข้าราชการเกษียณอายุในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การจ้างเหมาบริการ การรับงานไปทำที่บ้าน เป็นต้น

3 .เห็นด้วยกับการศึกษาเพื่อปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญของข้าราชการส่วนท้องถิ่น โดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวได้มีการเตรียมความพร้อมและวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง และจะได้มีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลและแนวทางการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกันต่อไป

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของการบริหารบุคลากรภาครัฐในภาพรวม ซึ่งต้องพิจารณาดำเนินการในหลายมิติควบคู่กันไปทั้งการลดกำลังคน การส่งเสริมบุคลากรคนรุ่นใหม่ การจ้างงานข้าราชการเกษียณที่มีศักยภาพในตำแหน่งขาดแคลน และการเตรียมรับสังคมสูงวัย.


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี One 31


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:15 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์