
เตรียมพร้อม รีดภาษี โดนหมด‘เฟซบุ๊ก-ไลน์-ยูทูบ-เน็ตฟลิกซ์’
หน้าแรกTeeNee    ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง  ข่าวการเมือง      เตรียมพร้อม รีดภาษี โดนหมด‘เฟซบุ๊ก-ไลน์-ยูทูบ-เน็ตฟลิกซ์’ 

วันที่ 12 ก.พ. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ.2564 (การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือe-Service) ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2564 เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายฉบับดังกล่าว กำหนดให้ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ รวมทั้งอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ที่มีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี จากการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการในประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบแสดงรายการ และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายเดือนให้แก่กรมสรรพากร ภายใต้ระบบ pay-only (ห้ามหักภาษีซื้อ) โดยไม่ต้องจัดทำใบกำกับภาษีและรายงานภาษีซื้อ
กฎหมายดังกล่าวจะครอบคลุมผู้ประกอบการที่ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ ได้แก่ การให้บริการดาวน์โหลด หนัง/ภาพยนตร์ เพลง เกม สติกเกอร์ นายหน้า สื่อโฆษณา เป็นต้น แพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการในประเทศไทย เช่น Apple, Google, Facebook, Netflix, Line, Youtube และ Tiktok เป็นต้น และต้องมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
กรมสรรพากร ระบุอีกว่า กฎหมายดังกล่าวจะสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษีระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ช่วยปิดช่องโหว่ของกฎหมาย เพราะมีการกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ยื่นแบบและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกรมสรรพากรเช่นเดียวกับผู้ประกอบการในประเทศ โดยกฎหมายดังกล่าวจะยกระดับแนวทางการบริหารจัดเก็บภาษีของไทยให้สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และจะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับประเทศ โดยคาดว่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นปีละ 5,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้กรมสรรพากรได้หารือกับผู้ประกอบการต่างประเทศ และหน่วยงานจัดเก็บภาษีในหลายประเทศที่มีการใช้กฎหมายเช่นเดียวกันนี้ พบว่า ผู้ประกอบการต่างประเทศส่วนใหญ่มีความเข้าใจในหลักการของกฎหมายและได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่มีหลักการเดียวกันกับร่างกฎหมายนี้อยู่แล้ว โดยผู้ประกอบการต่างประเทศให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีเป็นอย่างดี
"ที่ผ่านมาผู้ประกอบการในประเทศที่ให้บริการ e-Service ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ยื่นแบบ และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มมาโดยตลอด ขณะที่ผู้ประกอบการจากต่างประเทศ หรืออิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มต่างประเทศที่ให้บริการ e-Service ในไทยไม่ต้องดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากกฎหมายเดิมไม่ครอบคลุมถึง ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบในการดำเนินธุรกิจ ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ซึ่งหลายประเทศใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มต่างก็เจอปัญหาดังกล่าว ดังนั้นประเทศที่จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่า 60 ประเทศ จึงได้ออกหรือแก้ไขกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการต่างประเทศ หรืออิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มต่างประเทศ ต้องจดทะเบียนและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่หน่วยงานจัดเก็บภาษี ตามคำแนะนำของ OECD"
อย่างไรก็ดี กรมสรรพากรได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกและให้บริการ โดยได้พัฒนาระบบ Simplified VAT System for e-Service (SVE) ซึ่งเป็นระบบการจดทะเบียน การยื่นแบบ และการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีความง่าย ทันสมัย เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการใช้บริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th



  กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























 กระทู้ล่าสุด


 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday