พร้อมเป็นหนูทดลอง! อนุทิน จะฉีดวัคซีนคนแรก แม้ประสิทธิภาพแค่ 50%

อนุทิน กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ว่า ได้มีการตรวจเชิงรุกมากพอสมควร ยืนยันว่าความสามรถตรวจเชิงรุกของกรมควบคุมโรคไม่ลดน้อยลง และจะตรวจให้มากที่สุด ย้ำว่าสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมได้ เพราะยังไม่มีกลุ่มก้อนที่มาจากต้นตอที่ค้นหาไม่ได้ แต่การติดเชื้อทุกกลุ่มก้อนสามารถหาต้นตอได้ และทำการสอบสวนโรค ค้นหา และติดตามได้ครบหมด จึงถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมที่ดี รวมถึงการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามก็มีความพร้อมมาก ขณะที่เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์รักษาต่างๆ ก็มีความพร้อมมากเช่นกัน จึงขอให้มั่นใจ แต่ประชาชนต้องช่วยกันระมัดระวังการติดเชื้อ ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

อนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่แม่สอดวานนี้ (14 ม.ค.) ตนลงไปดูความพร้อมและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อไปดูแล้วมีความมั่นใจมากและทึ่งที่ทุกคนตั้งใจทำงานมีการวางแผนที่ดี ซึ่งแม่สอดเปรียบเสมือนประตูสำคัญในการเข้ามาของเแรงงานต่างด้าว แม้กระทั่งคนไทยเองก็เข้าออกเส้นทางดังกล่าว จึงถือเป็นด่านสำคัญ อีกทั้งได้ไปเยี่ยมคนไทยที่กลับมาจากการทำงานอีกฝั่งและพบว่าติดเชื้อหลายคนและได้รับการรักษาอย่างดี ซึ่งตนได้ให้ไปบอกคนอื่นๆ ด้วยว่าอย่าลักลอบเข้ามานี่บ้านของเรา ทุกคนมีสิทธิเดินทาง แต่ขอให้เข้ามาอย่างถูกต้องถูกกฎหมายและเข้าสู่การกักตัวเพื่อรักษา ดีหว่าหลบหนีแล้วติดเชื้อไปสู่คนอื่น นอกจากนี้ประสิทธิภาพสถานกักตัวที่แม่สอดมีความพร้อมมาก แต่ปัญหาหลายคนไม่อยากกักตัว 14 วัน เลยหลบนี แต่จะเป็นผลเสียมากกว่า

เมื่อถามว่าที่เคยบอกว่าจะขอฉีดวัคซีนเป็นคนแรกยังยืนยันหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ยืนยันอยู่แล้ว วัคซีนสำหรับโควิดในโลกนี้ มีการยืนยันแล้วว่าทุกวัคซีนไม่ทำให้โรคนี้พัฒนาจนไปอาการหนัก พูดง่ายๆ ว่าถ้าป่วยก็ไม่ป่วยหนัก ไม่ตาย เมื่อได้รับวัคซีนโรคแล้วแม้จะติดเชื้อก็ตามแต่จะทุเลาลงและในอนาคตก็จะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นอีก อย่างไรก็ตามถ้าดูการรายงานข่าวที่ทำว่าวัคซีนแต่ละชนิดได้ประสิทธิผลกี่เปอร์เซ็นนั้น แต่คณะแพทย์ก็มั่นใจในการฉีดให้ประชาชนให้มากที่สุด ส่วนเรื่องผลข้างเคียงจะคล้ายหวัดใหญ่หรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องถามแพทย์โดยตรง ซึ่งเราได้การตั้งคณะอนุกรรมการวัคซีนขึ้นมาติดตาม วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการรายงานนายกฯ ให้รับทราบ