ด่วน! ศบค.ไม่เคาะล็อกดาวน์ แบ่งโซน 4 สี อ่านรายละเอียดได้เลยที่นี่!

วันที่ 24 ธ.ค. 63 - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล

โดยล่าสุดเวลา 11.10 น. รายงานข่าวจากที่ประชุมเปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.ไม่มีมติให้ล็อกดาวน์ แต่มีมติแบ่งพื้นที่แต่ละจังหวะที่มีความเสี่ยงสูงไปถึงจังหวัดที่มีความเสี่ยงต่ำ (แดง-ส้ม-เหลือง-เขียว) เพื่อใช้มาตรการควบคุมโรค ดังนี้

- พื้นที่สีแดง (1 จังหวัด) คือ สมุทรสาคร

- พื้นที่สีส้ม (4 จังหวัด) คือ กรุงเทพ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม

- พื้นที่สีเหลือง (25 จังหวัด) สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ อยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรี สุราษฏ์ธานี ประจวบ ชัยภูมิ นครสวรรค์ อ่างทอง

- พื้นที่สีเขียว คือ จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ

โดยในพื้นที่สีแดง (เสี่ยงสูง) พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและมีมากกว่า 1 พื้นที่ มีการเฝ้าระวังสูงสุด ซึ่งการล็อกดาวน์ภายในจังหวัดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมโรคประจำจังหวัด

สีมส้ม (เสี่ยงปานกลาง) พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ให้อำนาจคณะกรรมการควบคุมโรคประจำจังหวัดพิจารณาพื้นที่ควบคุม

สีเหลือง (เสี่ยงน้อย) พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ให้อำนาจคณะกรรมการควบคุมโรคประจำจังหวัดพิจารณาพื้นที่ควบคุม

สีเขียว (ไม่มีผู้ติดเชื้อ) พื้นที่ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ ซึ่งต้องดูแลไม่ให้เกิดการติดเชื้อ

ด่วน! ศบค.ไม่เคาะล็อกดาวน์ แบ่งโซน 4 สี อ่านรายละเอียดได้เลยที่นี่!

พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. กล่าวในช่วงต้นการประชุม ว่า หากเปรียบเทียบสถานการณ์ covid 19 ในประเทศและต่างประเทศ ยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก ขอให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคนที่ร่วมกันเสียสละ อดทน ซึ่งไทยเคยทำสำเร็จกันมาแล้ว

จึงขอให้กำลังใจให้ทุกคนทำให้สำเร็จอีกครั้ง แต่อย่าประมาทหรือชะล่าใจ ต้องพิจารณาจากบทเรียนครั้งก่อน หากเราไม่ประมาท และ ปรับปรุงมาตรการให้มีประสิทธิภาพ ก็จะไม่พ่ายแพ้ ดังนั้น ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจด้วยความสามัคคี เราจะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

"สิ่งที่นายกรัฐมนตรีเสียใจ คือช่วงเวลาปีใหม่ควรจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุข แต่กลับต้องเพิ่มความเข้มงวดในระดับสูงสุด อีกประเด็นสำคัญ คือ มีแรงงานต่างด้าวกระจายทั่วประเทศ ทั้งสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานเหล่านี้ ก็เอื้อต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย

จึงต้องเฝ้าระวังและตรวจตราอย่างเข้มข้น การ์ดอย่าตก สวมหน้ากากอนามัยเว้นระยะห่าง และ ในสถานการณ์เช่นนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตกต่ำ จะต้องถูกพิจารณาควบคู่กับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว