จ่อแจ้ง 3 ข้อหา ม็อบเฟสต์ ปมทำร้ายตร.-คลุมผ้าอนุสารีย์ประชาธิปไตย
จากกรณีที่มีการจัดกิจกรรม Mob Fest ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 13.00-24.00 น.ของวานนี้ (14 พ.ย.) โดยคณะทำงานของกลุ่มนักเรียนเลวปีนขึ้นไปนำผืนผ้าสีขาวที่มวลชนพ่นสเปย์ข้อเรียกร้อง และเขียนข้อความเกี่ยวกับอนาคตเรื่องการศึกษาลงบนผ้า นำขึ้นไปวางคลุมโดยรอบกึ่งกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทั้งหมด ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุน เมื่อกลุ่มการ์ดอาชีวะได้พยายามขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปทำกิจกรรมในบริเวณภายในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 ได้ขอร้องไม่ให้ทำกิจกรรม กลุ่มอาชีวะได้ฝ่ารั้วเหล็กแล้วผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 1 จนถอยกำลัง ซึ่งเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ความคืบหน้าล่าสุด (15 พ.ย.63) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แบ่งการกระทำความผิดออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.การทำร้ายร่ายกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย โดยถูกด้ามธงตีศีรษะ 1 นาย มีอาการปวดบวม และอีกรายถูกของแข็งกระแทกที่ใบหน้า ริมฝีปากแตก ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ เข้าข่ายข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่,การร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 เบื้องต้นตำรวจทั้ง 2 นายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ แล้ว
ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมปีนขึ้นไปนำผ้าไปคลุมบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร และกรมศิลปากร การทำให้เสียหายหรือทำให้เสื่อมค่าหรือไร้ประโยชน์ จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน และ พ.ร.บ.ความสะอาด ขณะนี้อยู่ระหว่างกำลังตรวจสอบความเสียหาย และจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.สำราญราษฎร์ และอีกข้อหา การชุมนุมฝ่าฝืนเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานได้แจ้งไว้ และความผิดอื่นๆ เช่น การกีดขวางทางจราจร พ.ร.บ.ความสะอาด ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด เบื้องต้นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นหน้าที่ต้องควบคุมจัดการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และปราศจากเหตุร้ายใดๆ ทั้งสิ้น