ตำรวจยันจำเป็นฉีดน้ำสกัดม็อบ ฝ่าฝืนเข้าเขตหวงห้าม ลั่นดำเนินคดีเพิ่มแน่นอน

ตำรวจยันจำเป็นฉีดน้ำสกัดม็อบ ฝ่าฝืนเข้าเขตหวงห้าม ยืนยันเป็นน้ำเปล่าไม่มีการผสมสารเคมี รวมทั้งไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ลั่นดำเนินคดีเพิ่มแน่นอน

เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 8 พ.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยภายหลังกลุ่มราษฎรยุติการชุมนุม โดยยืนยันถึงสาเหตุการใช้น้ำควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ เป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่หลังจากได้เจรจาแจ้งเตือนกับผู้ชุมนุมไปแล้ว แต่กลับพยายามฝ่าฝืนเข้ามาในพื้นที่หวงห้าม จึงจำเป็นต้องใช้น้ำสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม โดยยืนยันเป็นน้ำเปล่าไม่มีการผสมสารเคมี รวมทั้งไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงความจำเป็นต้องใช้รถฉีดน้ำในครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นการเตือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามา และการฉีดน้ำเป็นการฉีดขึ้นฟ้าให้เป็นละอองน้ำ ไม่ได้จงใจให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สิน ส่วนกรณีที่ตำรวจขอโทษกลุ่มผู้ชุมนุม หลังจากใช้รถฉีดน้ำไปนั้น เป็นเพราะไม่อยากให้สถานการณ์บานปลายไปกว่านี้

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนี้ เบื้องต้นพบว่ามีความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ เนื่องจากไม่ได้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน ส่วนจะเป็นบุคคลใดบ้าง อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งตำรวจเก็บรวบรวมไว้ตั้งแต่การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ส่วนการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเพียงการขอทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการหย่อนจดหมายในตู้ไปรษณีย์บริเวณหน้าศาลฎีกา ซึ่งตำรวจอนุญาตให้จัดกิจกรรมก่อนที่ผู้ชุมนุมจะประกาศยุติการชุมนุม ส่วนจะชุมนุมอีกครั้งหรือไม่ เมื่อไรนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้ชุมนุม