ม็อบอ่านแถลงการณ์ ก่อนประกาศยุติชุมนุม

ม็อบอ่านแถลงการณ์ ให้ผู้ชุมนุมนำจดหมายไปหย่อนตู้ไปรษณีย์ที่หน้าศาลหลักเมือง ก่อนยื่นจดหมายจากราษฎร และประกาศยุติชุมนุมแล้ว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 พ.ย.63 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมต่างที่มีการประกาศนัดหมาย โดยในเวลา 17.00 น. แกนนำเตรียมประกาศจุดหมายเคลื่อนการชุมนุมไปยื่นจดหมาย ซึ่งได้มีการประกาศว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ให้ผู้ชุมนุมรอฟังสัญญาณจากซาเล้งแดงที่ติดตั้งเครื่องขยายเครื่อง 4 คัน ที่จะใช้สื่อสารกับผู้ชุมนุม โดยตอนนี้ซาเล้งแดงได้เตรียมพร้อมแล้ว

ส่วนบริเวณแยกคอกวัวฝั่งกองสลากเก่า มีการนำแผงหล็กมาปิดกั้นถนน แต่ยังเปิดการจราจรบริเวณฝั่งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เช่นเดียวกับถนนตะนาวทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีผู้ชุมนุมและตำรวจดูแลความเรียบร้อย

ต่อมาเวลา 16.10 น. มีการปิดการจราจรถนนราชดำเนินกลาง ฝั่งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาเพิ่มเติม ส่งผลให้การจราจรบนถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกคอกวัว จนถึงบริเวณหน้าร้านอาหารเมธาวลัย-ศรแดง ถูกปิด จากนั้นผู้ชุมนุมราษฎรนำรถซาเล้งแดงลงถนนแล้ว

จากนั้นเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณแยกจ.ป.ร. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่นำรถเมล์ปอ.สีเหลืองจอดติดกันอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเดินทางผ่านเป็นจำนวนมาก โดยมีรถเมล์ถึง 2 ชั้น ลวดหนาม 1 ชั้น และในชั้นต่อไปเป็นรถตู้เตำรวจกว่า 20 คันกันอีกชั้นหนึ่ง โดยมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชนหลายกองร้อย พร้อมด้วยโล่ป้องกัน และกระบอกครบมือ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่กลุ่มราษฎรอาจจะเดินทางมายังจุดนี้

ส่วนบริเวณแยกมัฆวาน ตำรวจติดป้ายห้ามใช้เส้นทางโดยเด็ดขาดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาตรา 19 โดยตำรวจตั้งแท่งแบริเออร์เหล็กขนาดใหญ่ตั้งไว้อย่างแน่นหนา พร้อมมีลวดหนามอยู่ด้านหลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนกว่า 4 กองร้อย นอกจากนี้ยังนำรถน้ำสลายการชุมนุมกว่า 3 คัน เตรียมพร้อมรับกลุ่มผู้ชุมนุม

ถัดมาเวลา 17.30 น. แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration โพสต์ข้อความระบุว่า เตรียมเคลื่อนขบวนไปสำนักพระราชวัง ด้วยความเคารพในศักดิ์และศรีของความเป็นมนุษย์ เวลานี้ราษฎรได้แสดงเจตจำนงค์ในการหวังให้ประเทศเรานี้มีสถาบันที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีรัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชนที่ควรจะเป็นฉบับสุดท้าย มีรัฐบาลที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง

จากนั้นเวลา 17.35 น. แกนนำกลุ่มราษฎรประกาศให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวน โดยผู้ชุมนุมพร้อมใจกันเคลื่อนขบวน โดยรถแกนนำพร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเคลื่อนขบวนจากถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าไปยังสำนักพระราชวัง บริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

ด้าน แกนนำกลุ่มราษฎร ได้เดินประกาศชักชวนผู้ชุมนุม เคลื่อนขบวนไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อยื่นจดหมาย ขณะเดียวกันมีการชูแผ่นไวนิลขนาดใหญ่รูปซองจดหมาย จ่าหน้าซองระบุว่า ผู้ส่งคือ ราษฎร

ต่อมา 18.00 น. ตำรวจเข้ามาเจรจาแกนนำราษฎร บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ เพื่อพูดคุยถึงเส้นทางการการชุมนุมไปยังสำนักพระราชวัง บริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องจากเป็นเขตพระราชทาน อาจผิดพ.ร.บ.การชุมนุม โดยผู้ชุมนุมบางส่วนเลยตัดสินเลี่ยงไปใช้เส้นทางย่อยอื่นๆ อย่างถนนเลียบคลองหลอด จากนั้นเจ้าหน้าที่ยอมเปิดเส้นทางให้ผู้ชุมนุมได้เคลียร์ต่อไป

จากนั้นผู้ชุมนุมเคลื่อนไปถึงบริเวณสนามหลวง และเผชิญหน้ากับแนวรถเมล์ พร้อมรถน้ำ 2 คันที่จอดขวางอยู่ โดยตำรวจยังประกาศข้างหน้าเป็นพื้นที่พระราชทาน หากเข้าไปจะมีความผิดทางกฎหมาย

จากนั้นเวลา 18.20 น. ผู้ชุมนุมได้ดันรถเมล์ที่ขวางออกจากเส้นทาง ก่อนเจอแนวลวดหนามและรถตู้ของตำรวจอีกชั้น รวมถึงเผชิญหน้ากับรถฉีดน้ำแรงดันสูงที่ตำรวจเคยใช้ในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาด้วย โดยตำรวจยังประกาศอย่างต่อเนื่องห้ามเข้ามาพื้นที่นี้โดยเด็ดขาด พร้อมให้ส่งตัวแทนมาพูดคุยเจรจากัน

ต่อมาเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม ก่อนผู้ชุมนุมจะเข้าไปดันรถเมล์และดึงลวดหนามออก โดยสถานการณ์ตอนนี้ตึงเครียดมาก ก่อนผู้ชุมนุมจะฮือเข้าไปในสนามหลวง ทำให้การ์ดต้องเข้ามาห้ามปราม

จากนั้นเวลา 18.45 น. ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ในนามนครบาล การฉีดน้ำเมื่อสักครู่เป็นความผิดพลาด และจะไม่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมแล้ว พร้อมขอให้เปิดพื้นที่เจรจากับผู้ชุมนุม

ถัดมาเวลา 19.00 น. ตัวแทนผู้ชุมนุมได้เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ หลังเหตุการณ์ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม โดยการพูดคุยเจ้าหน้าที่ต้องการให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม ก่อนเจ้าหน้าที่จะไม่ขอเจรจากับผู้ชุมนุมแล้ว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุมอย่างมาก