วิโรจน์ อัด ประยุทธ์ แนะลาออก ยุบสภาให้ปชช.นับอนาคตตัวเอง (คลิป)
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง วิโรจน์ อัด ประยุทธ์ แนะลาออก ยุบสภาให้ปชช.นับอนาคตตัวเอง (คลิป)
"ท่าทีของรัฐบาลต่อปรากฏการณ์ในสังคมที่เกิดขึ้นในวันนี้มีความสำคัญอย่างมาก รัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชน ต้องเปิดใจรับฟังเสียงของประชาชนและใช้วิธีการตามระบอบประชาธิปไตย และกลไกทางรัฐสภาในการคลี่คลายปัญหา ควบคู่ไปกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัย และเปิดโอกาสที่ให้คนที่คิดต่างได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุด้วยผลอย่างมีวุฒิภาวะ เมื่อความเห็นที่แตกต่างของกันและกันได้รับการเคารพ แต่ละฝ่ายก็จะเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ความหวาดระแวงที่มีต่อกันก็จะผ่อนคลายลง มองเห็นเจตนาที่ดีของอีกฝ่ายมากขึ้นจะเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้การพูดคุยกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในสังคมภายนอก มีวุฒิภาวะตามไปด้วย"
.
***ไม่เรียนรู้ความสูญเสียจากประวัติศาสตร์ - ปลุกปั่นสร้างความเกลียดชัง ยังคงใช้โมเดล 6 ตุลา 19
วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความความพยายามผลิตซ้ำเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ซึ่งครั้งนั้นมีการจัดตั้งลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มกระทิงแดง และกลุ่มนวพล ซึ่งมีความโยงใยกับฝ่ายรัฐ ที่พร้อมเอาประเด็นอ่อนไหวมายุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง อาฆาตมาดร้ายต่อกัน จนประชาชนกลุ่มหนึ่งรู้สึกว่าตนได้รับใบอนุญาตให้ฆ่าจากรัฐบาล จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมสังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่สามารถจับกุมฆาตกรผู้ก่อการสังหาร มาดำเนินคดีได้เลยแม้แต่คนเดียว และเหตุการณ์ดังกล่าวยังนำไปสู่การทำรัฐประหารในที่สุด
.
เสื้อเหลือง ที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความรู้รักสามัคคี - กลายเป็นการปกป้องอำนาจเผด็จการของประยุทธ์
.
"พล.อ.ประยุทธ์ เอาแต่หลอนบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าการชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ มีคนอยู่เบื้องหลัง คิดดูถูกประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่คิดว่าประชาชนจะมีความคิดเป็นของตัวเอง พอตนเองไม่มีสติปัญญาที่จะบริหารราชการแผ่นดิน ก็เลยต้องใช้มุขเก่าๆ นั่นก็คือ การสร้างปีศาจ ยัดเยียดให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งเป็น "ศัตรู" แล้วก็ปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังกัน จงใจสร้างความไม่สงบขึ้นมาเอง โดยเอาประชาชนกลุ่มหนึ่งเป็นเหยื่อ แล้วหลอกใช้ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นเครื่องมือ พอเกิดเหตุปะทะกัน ก็จะใช้อำนาจพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง กฎอัยการศึก หรืออาจจะหนักถึงขั้นทำรัฐประหาร เข้ามาคืนความสุข แล้วก็ขอเวลาอีกไม่นาน จากนั้นก็จะใช้กฎหมายจัดการกับประชาชนผู้เห็นต่างอย่างเลือกปฏิบัติต่อไป"
วิโรจน์กล่าวว่า วันนี้สิ่งประชาชนต้องพยายามช่วยกันก็คือ การประคับประคองไม่ให้สังคมนี้ต้องตกเป็นเหยื่อเงื่อนไงความขัดแย้งและความเกลียดชังที่ถูกสร้างขึ้น วันนี้ต่างฝ่ายต้องยอมรับว่า คิดที่คิดต่างจากเรานั้นมีอยู่จริง เขาก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นของเขา เราก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นของเรา และต่างฝ่ายต้องมีความอดทนอดกลั้น และยืนยันที่จะอยู่ร่วมกันได้โดยไม่อาฆาตมาดร้ายต่อกัน
ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับผู้ชุมนุมต้องเข้าใจก่อนว่า ท่าทีที่ตรงไปตรงมาที่เราไม่คุ้นเคย จนกลายเป็นความเกรี้ยวกราดในบางครั้ง เป็นเพราะว่าเขาถูกกดทับด้วยอำนาจนิยม ทั้งในครอบครัว โรงเรียน สังคมและวัฒนธรรม กับสังคมที่ชายเป็นใหญ่ สังคมที่ให้อภิสิทธิ์กับผู้เกิดก่อน ระบบเส้น ระบบอุปถัมภ์ ที่ถ้าบอกแล้วต้องเชื่อ เล่าให้ฟังแล้วต้องซึ้ง สั่งแล้วต้องทำ ห้ามถาม ห้ามสงสัย ตอบไม่ตรงก็ไม่ได้
"สังคมที่พวกเขาเติบโตขึ้นมารายล้อมพวกเขาด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริง ไม่ได้อยู่ในสังคมที่อุดมไปด้วยอารมณ์แบบคนรุ่นก่อนอีกต่อไป ละครตบจูบที่ผู้ใหญ่ดูอย่างสนุกสนานไม่คิดอะไรในอดีต ปัจจุบันพวกเขากลับตั้งคำถามว่า การจับนางเอกไปขัง ข่มเห่งกันขนาดนี้ แล้วจะไปรักกันได้อย่างไร หรือต่อให้ผู้ใหญ่ในวันนี้บอกกับพวกเขาว่า "เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด" เขายังอยากจะรู้เลยว่าต้องเดินตามในระยะกี่เมตร หรือการ "อาบน้ำร้อนมาก่อน" พวกเขาก็ยังอยากจะถามว่า น้ำร้อนกี่องศา"
.
.
การปฏิรูปสถาบัน มีเจตนาที่ดี เป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อธำรงรักษาไว้ - ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเป็นตัวกลางแก้ปัญหา
วิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากการเรียกร้องไปที่รัฐบาล เพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ ยังจำเป็นที่จะต้องวิงวอนไปที่ประชาชนผู้เห็นต่างทั้งสองฝ่าย วันนี้เราต้องยอมรับว่า ประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองออกมาชุมนุม พวกเขามีความรักและห่วงใยในสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยใจจริง ซึ่งประชาชนอีกฝ่ายต้องเคารพในความคิดเห็นและการแสดงออกของพวกเขา ในขณะเดียวกันประชาชนอีกฝ่ายที่ต้องการการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่ได้เพ่งโทษและพยายามมองไปที่เจตนาที่ไม่ดี ก็จะเข้าใจได้ว่า ‘การปฏิรูป' ที่พวกเขาเสนอ คือ การปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อธำรงรักษาไว้เพื่อความสถิตย์สถาพรของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เคียงคู่กับระบอบประชาธิปไตย เป็นมิ่งขวัญภายใต้รัฐธรรมนูญสืบต่อไป และปัจจุบันก็มีผู้หลักผู้ใหญ่และนักวิชาการได้ออกมาเสนอแนวคิดในการปฏิรูปสถาบัน ในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากพวกเขา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยน และเห็นต่างกันได้
.
วิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากการเรียกร้องไปที่รัฐบาล เพื่อคลี่คลายวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ ยังจำเป็นที่จะต้องวิงวอนไปที่ประชาชนผู้เห็นต่างทั้งสองฝ่าย วันนี้เราต้องยอมรับว่า ประชาชนที่ใส่เสื้อเหลืองออกมาชุมนุม พวกเขามีความรักและห่วงใยในสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยใจจริง ซึ่งประชาชนอีกฝ่ายต้องเคารพในความคิดเห็นและการแสดงออกของพวกเขา ในขณะเดียวกันประชาชนอีกฝ่ายที่ต้องการการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่ได้เพ่งโทษและพยายามมองไปที่เจตนาที่ไม่ดี ก็จะเข้าใจได้ว่า ‘การปฏิรูป' ที่พวกเขาเสนอ คือ การปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อธำรงรักษาไว้เพื่อความสถิตย์สถาพรของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เคียงคู่กับระบอบประชาธิปไตย เป็นมิ่งขวัญภายใต้รัฐธรรมนูญสืบต่อไป และปัจจุบันก็มีผู้หลักผู้ใหญ่และนักวิชาการได้ออกมาเสนอแนวคิดในการปฏิรูปสถาบัน ในอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากพวกเขา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยน และเห็นต่างกันได้
.
วิโรจน์กล่าวในช่วงท้ายว่า การคลี่คลายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังไม่สายเกินไป เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้แต่จะไม่รู้ตัวว่าตนเองได้กระทำผิดอะไรลงไปบ้าง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือเปล่า ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหานี้ได้อีกแล้ว จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ขอให้พรรคร่วมรัฐบาล ได้พิจารณาถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แล้วเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่เป็นอิสระจากกลไกของ คสช. ให้มาขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จากนั้นจึงยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่
"รัฐนาวานี้ ได้นับถอยหลังลงแล้ว 3 2 1 0 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเสียสละลาออกเถอะครับ ลาออกเพื่อให้ประชาชนได้นับอนาคตของพวกเขาไปข้างหน้า One Two Three Four Five ... "
#ก้าวไกล #ประชุมสภา #ประยุทธ์ออกไป #หยุดคุกคามประชาชน
ชมคลิป
VVVVVVVVV
VVVVVV
VVV
V
VVVVVV
VVV
V
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น