ผู้ชุมนุมถูกฉีดน้ำแยกปทุมวัน เผยมีอวัยวะภายในช้ำ-มีสารพิษตกค้าง

ประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่เรื่อยคือการควบคุมสถานการณ์ด้วยการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการน้ำที่ฉีดในการสลายการชุมนุมนั้นแตกต่างจากการสลายการชุมนุมหลายๆครั้งที่ผ่านมา

ซึ่งทางด้านกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะอ้างอิงหลักปฏิบัติของสหประชาชาติ คือการใช้น้ำฉีดสลายการชุมนุมได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุรุนแรงจำเป็น และการฉีดน้ำต้องไม่ฉีดใส่ผู้ชุมนุมโดยตรง

ขณะที่ทางตำรวจยืนยันว่าทำตามหลักสากลทุกอย่าง และไม่ได้ผสมสารเคมีประเทศกรดลงในน้ำแต่อย่างใด ส่วนสีที่ผสมลงไป คือสีธรรมดา จุดประสงค์เพื่อให้มีผลทางจิตวิทยาเท่านั้น

ทั้งนี้ยังคงมีผู้ที่ออกมาเปิดเผยว่าได้รับบาดเจ็บจากการเหตุการสลายการชุมนุมวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมาอยู่ และเล่าถึงอาการต่างๆ ที่เกิดจากการโดนฉีดน้ำสลายการชุมนุม ซึ่งบางคนมีอาการระคายเคือง บางคนมีอวัยวะภายในช้ำ รวมถึงแพทย์ผู้รักษาระบุว่ามีสารเคมีตกค้างอยู่ในร่างกายด้วย

โดยผู้ชุมนุมรายดังกล่าว ยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่สัมผัสน้ำจากรถที่เจ้าหน้าที่ใช้ เธอไม่ได้ปิดหน้ากากอนามัยจึงเพราะกำลังบอกกับผู้ชุมนุมอีกคนให้ระวังตัว อาจเป็นช่วงเวลาที่ได้รับสารพิษนี้เข้าสู้ร่างกายโดยตรง

ต่อมาได้รับการยืนยันว่าสารเคมีที่ถูกผสมลงไปในน้ำเป็นแก็สน้ำตาชนิดหนึ่ง ซึ่งตำรวจยืนยันว่าเป็นไม่อันตรายต่อผู้สัมผัส

เครดิตแหล่งข้อมูล : ch3thailandnews